7 บทเรียนการเงินฉบับเด็กอายุ 14 ที่ตั้งใจว่าอายุครบ 15 จะไม่ขอเงินแม่ใช้ และอยากเก็บเงินซื้อทองให้ได้ปีละบาท

“ผมเคยเป็นมะเร็ง เคยโดนฉายแสง เคยทำคีโม ตอนนี้หายแล้ว แต่เป็นโรคหัวใจอยู่ เรามี ‘ระเบิดเวลา’ ในตัวที่ไม่เหมือนคนอื่น วันนี้เราไม่สามารถจะมองสุขภาพเป็นต้นทุนได้แล้ว เราก็เลยมองเรื่องเวลาที่เราเริ่มเร็วกว่าเป็นต้นทุน”

มนุษย์ต่างวัย Talk กับ ประสาน อิงคนันท์ คุยกับ ‘วิน-ภาสวิน ตันตินิติ’ เจ้าของช่อง win phassawin เด็กอายุ 14 ที่มีมายด์เซตด้านการวางแผนการเงินแบบโตเกินวัย

1. เปลี่ยนวิกฤตสุขภาพให้เป็นโอกาส

วินป่วยด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เขารู้ว่าต้นทุนสุขภาพของตัวเองไม่ดี ทางแก้คือสร้างต้นทุนด้านการเงิน เพื่อให้มีเงินพอที่จะดูแลสุขภาพตัวเองในวันหน้า เพราะเขาต้องไปหาหมอทุกเดือน ทำประกันสุขภาพไม่ได้ และมีโรคภัยที่เป็นเหมือนระเบิดเวลาในตัว ดังนั้น ต้นทุนชีวิตที่เขาสร้างได้ก็คือการเริ่มต้นวางแผนการเงินให้เร็วที่สุด เพราะการมีเงินเท่ากับมีหลักประกันที่ดีให้กับชีวิต

2. การวางแผนการเงิน ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี

ใครบอกว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ วินคิดเรื่องการวางแผนการเงินตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมต้น

เริ่มจากสำรวจรายรับ รายจ่าย เมื่อรายจ่ายมากกว่ารายรับ ต้องหารายได้เพิ่ม วิธีการของเขาก็คือหาขนมไปขายสร้างรายได้เสริม รับงานรีวิวสินค้าในช่อง Tiktok ของตัวเอง ห่อข้าวไปกิน

3. เพราะความรู้ไม่ได้มีอยู่แค่ในห้องเรียน

วินหมั่นหาความรู้อยู่เสมอ เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน ไปเข้าเรียนคลาสที่ตัวเองสนใจ ต่อยอดความรู้เรื่องการสร้าง personal branding ฟังพอดแคสต์ด้านการเงิน และไม่คิดเพียงแค่การเรียนรู้จากในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว

4. กล้าตั้งเป้าหมาย ต้องมีเงินฉุกเฉิน 60,000 บาท

เงิน 60,000 บาท สำหรับเด็กมัธยมต้น เป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่วินก็กล้าที่จะตั้งเป้าหมายว่า ต้องเก็บเงินสำรองให้ได้ตามเป้าหมายภายใน 1 ปี จำนวนเงินที่ว่ามาจากไหน ก็มาจากการคิดคำนวณรายจ่ายทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เมื่อถามว่าทำไมไม่ขอพ่อแม่ เขาตอบสั้น ๆ ว่า เขาน่าจะเป็นคนที่มีอีโก้สูง ไม่ว่าเราจะนิยามคำว่า “อีโก้” ในแง่บวกหรือลบ แต่ที่แน่ ๆ เขาได้ใช้ “อีโก้” เป็นพลังเพื่อพาตัวเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้

5. ถ้ามีเงิน 10 ล้านมาอยู่ตรงหน้าจะทำอย่างไร

วินตั้งเป้ากับตัวเองไว้ว่าทุกเดือน เขาจะต้องออมขั้นต่ำ 20% และแบ่งเงินไว้ลงทุนเดือนละ 1000-2000 บาท ช่องทางการลงทุนที่เหมาะกับเขาคือการซื้อทอง เพราะทองคำเป็น safe haven (สินทรัพย์ปลอดภัยที่ปราศจากความเสี่ยงและมีความผันผวนต่ำ) ถ้าเก็บเงินไว้เพื่อตัวเองในอนาคต ก็จะโดนผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ เมื่อถามว่า ถ้ามีเงิน 10 ล้านตอนนี้จะแบ่งการจัดการเงินอย่างไร เขาตอบแบบไม่ลังเลว่า 4 ล้านนำไปลงทุน 2 ล้าน สำหรับพ่อแม่ 1 ล้านสำรองไว้ใช้ และอีก 3 ล้านที่เหลือนำไปทำธุรกิจ เพราะเขาบอกว่าคนจะรวย ถ้าหวังเพียงลงทุนอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องทำงานด้วย

6. อย่าใช้เงินในอนาคตโดยไม่จำเป็น

วินเชื่อว่าถ้าเลือกได้ก็ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ ถ้าแคร์อนาคต ก็ไม่ควรใช้ระบบ Pay Later (Buy Now, Pay Later หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง) โดยไม่จำเป็น อะไรที่ซื้อเงินสดได้ ก็ควรซื้อเงินสดดีกว่า

ถ้าจะใช้บัตรเครดิตก็ควรใช้ให้เกิดประโยชน์ ใช้เพื่อสะสมแต้มเป็นส่วนลดในการใช้จ่าย หรือใช้แต้มซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ที่สำคัญคือต้องจ่ายเต็มวงเงินทุกครั้ง แต่ถ้าคิดว่าไม่สามารถควบคุมนิสัยการใช้เงินของตัวเองได้ก็ควรใช้บัตรเดบิตแทน

7. ความหมายของคำว่า “รวย” คือการได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้

สำหรับวิน “ความร่ำรวย” ไม่ได้หมายถึงชีวิตที่หรูหรา แต่คือการได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ ตามความพอใจของตัวเอง ไม่ใช่ตามมาตรฐานของคนอื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และรู้เป้าหมายของตัวเองว่าจะตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไรในทุก ๆ เช้า

ส่วนหนึ่งจากรายการมนุษย์ต่างวัย Talk กับประสาน อิงคนันท์ สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่นี่

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ