ปัญหาตาวัย 40+ แก้ได้ง่ายกว่าที่คิด

“เมื่ออายุมากขึ้น เราอาจมองว่าโรคตาเป็นความเสื่อมตามวัยที่ต้องปลง แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องปลง เพราะเราสามารถที่จะกลับมามองเห็นได้ ถ้าพ่อแม่หรือผู้สูงวัยได้รู้ว่าต้องผ่าตัดแบบไหน ดูแลอย่างไร ถ้าเขารู้เท่ากับที่หมอรู้ รับรองว่าไม่กลัวแน่นอน”

สายตายาว ต้อกระจก หนังตาตก ตาแห้ง ฯลฯ สารพัดปัญหากวนใจเรื่องตา ที่อาจกำลังรบกวนจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายคนอยู่ โดยเฉพาะในวันที่ตัวเลขอายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่าปล่อยให้โรคทางตาเป็นแค่ความเสื่อมทางวัย เพราะจริง ๆ แล้วทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ถ้าหากไม่ปล่อยทิ้งไว้ และได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง

บุพการีที่เคารพ คุยกับ ‘หมอหลิน’ พญ.วันวิสาข์ ตันศิริเจริญกุล ว.36850 จักษุแพทย์ โรงพยาบาลจักษุ อินซ์ และเจ้าของช่องติ๊กต็อก ‘หมอหลินสารพัดเรื่องตา’ เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพตาของคนวัย 40+ รวมทั้งสัญญาณเตือนที่เราไม่ควรมองข้าม และบอกให้เรารู้ว่าควรไปตรวจเช็กสุขภาพตาได้แล้ว เพราะถ้าหากปล่อยไว้อาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่จนนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้

รับชมรายการเต็มได้ที่ https://youtu.be/Cp3a1X8AhJs

เมื่อไรที่ควรเริ่มไปตรวจเช็กสุขภาพตา ?

สมัยก่อนอาจจะบอกว่าคนที่ควรไปตรวจสุขภาพตาคือคนอายุ 35 ปีขึ้นไป และควรไปตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะเริ่มมีความเสี่ยงต่อการเป็นต้อหิน แต่ในปัจจุบันโรคตาเพิ่มมากขึ้นในคนอายุน้อย อาจเป็นเพราะการใส่คอนแทคเลนส์ ตาแห้งตั้งแต่อายุยังน้อย หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เราใช้สายตา หรือทำลายดวงตามากขึ้น ดังนั้น ทุกคนควรไปตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยไม่ต้องรอให้อายุมาก หรือมีอาการผิดปกติก่อน

สารพัดปัญหาเรื่องตาของคนวัย 40+

สายตายาว : คนในช่วงอายุ 40+ มักจะเริ่มมีปัญหาสายตายาว อยู่ ๆ ก็มีอาการมองเห็นไม่ชัด​ ซึ่งปัญหานี้เกิดจากภาวะเลนส์ตาเสื่อม หรือกล้ามเนื้อในการโฟกัสตาเสื่อมไป

ส่วนใหญ่ก็จะแก้ด้วยการใส่แว่นสายตา แต่บางคนไม่อยากใส่แว่น หรือไม่สะดวกในการใช้แว่นสายตา ก็สามารถใช้การทำเลสิค หรือการปรับค่าคอนแทคเลนส์แบบโมโนวิชั่น ​(Monovision) เพื่อให้มองเห็นได้ชัดทั้งระยะใกล้และระยะไกล

ตาแห้ง : สมัยก่อนปัญหาเรื่องตาแห้งอาจถูกมองว่ามันเป็นเรื่องของคนมีอายุ แต่ทุกวันนี้คนอายุน้อย ๆ ก็เป็นได้ ปัญหานี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมาก​ เพราะจะมีอาการเคืองตา ​น้ำตาไหลบ่อย​ ​ส่วนใหญ่คนมักจะแก้ไขด้วยการหยอดน้ำตาเทียม แต่พอหยอดแล้วอาการไม่ดีขึ้นก็เลิกหยอด

โรคตาแห้งส่วนใหญ่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันเปลือกตา ทำให้น้ำตาที่ผลิตออกมาไม่มีคุณภาพ ทำให้น้ำตาระเหยเร็ว ต้องกระพริบตาบ่อย ๆ ปัจจุบันมีเครื่องที่สามารถตรวจเช็กได้ว่าน้ำตาของเราระเหยในกี่วินาที ต่อมไขมันเปลือกตาเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ และพอทำการรักษาก็จะช่วยให้น้ำตาเราระเหยช้าลง ถึงแม้ว่าอาการตาแห้งจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นมาก ๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวได้ การรักษาจะช่วยให้อาการดีขึ้น แต่จะไม่หายขาด เพราะโรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง

ต้อกระจก : โรคนี้เริ่มเป็นในช่วงอายุ 50-60 ปี อาจเริ่มจากอาการตามัวทีละนิดจนค่อย ๆ ชิน หรือเป็นน้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว โรคนี้เป็นโรคที่เกิดกับทุกคน อยู่ที่ใครเริ่มเป็นเร็ว เป็นช้า บางคนอายุ 40 ก็ตรวจเจอว่าเลนส์ตาเริ่มขุ่นแล้ว ซึ่งปัจจัยเสี่ยงในการเป็นต้อกระจกเร็วขึ้น ก็คือ แสงยูวี การใช้ยาบางชนิด หรือการที่ดวงตาเคยได้รับอุบัติเหตุหรือได้รับการกระแทกมาก่อน

โรคนี้ถ้าไม่ได้ปล่อยไว้นานจนเกินไป มันมีเวลาค่อนข้างเยอะ ที่จะผ่าตัดแล้วได้ผลลัพธ์ออกมาดี แต่ยิ่งผ่าเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เร็วขึ้น แต่ถ้ารอจนต้อกระจกแข็ง หรือสุกจนเกินไป ก็จะทำให้การผ่าตัดยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น และหายช้า แต่ก็ยังสามารถรักษาได้ ปัจจุบันการผ่าตัดต้อกระจก แล้วเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ ก็ถือเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตด้วย เพราะเราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้เลนส์แบบไหน แบบที่ช่วยให้มองใกล้หรือมองไกลได้ชัดเจนขึ้น

ต้อหิน : สามารถเป็นได้ตั้งแต่อายุ 40 ปี โดยเริ่มจากความดันตาสูง แต่การมองเห็นยังปกติ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ตาบอด ซึ่งโรคพวกนี้มันไม่มีวิธีสังเกตได้ในช่วงแรก ๆ นอกจากการไปตรวจเช็กสุขภาพตา

หนังตาตก ขนตาทิ่ม : หลายคนอาจจะไม่ได้มองว่าเรื่องเหล่านี้มันเป็นปัญหา แต่จริง ๆ แล้วมันกระทบต่อคุณภาพชีวิต ถ้าหนังตาตก เวลาลืมตาก็จะต้องคอยเลิกหน้าผาก และทำให้รู้สึกเมื่อย หรือบางครั้งขนตาทิ่ม ก็จะมีอาการน้ำตาไหลทั้งวัน ถ้าหนังตาตกลงมา ก็ทำให้ขนตาเราทิ่มเข้าไป ดังนั้น ถ้าเราแก้อาการหนังตาตกก็จะช่วยให้อาการขนตาทิ่มดีขึ้นไปด้วย บางครั้งคนก็ไปแก้หนังตาตก เพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพ และสร้างความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งอาการหนังตาตกนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด

อย่ามองว่า ‘โรคตา’ เป็นแค่ความเสื่อมตามวัย ถ้าสงสัย ควรไปหาหมอ

ลูกหลานอาจจะสังเกตความผิดปกติ หรือสัญญาณในการเกิดโรคทางตาของพ่อแม่หรือผู้สูงอายุได้จากความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน หรือการมองเห็นของเขา แต่หลายครั้งพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายก็มักจะพูดถึงภาวะหรืออาการที่เขาเป็นอยู่รุนแรงน้อยกว่าความเป็นจริง เช่น ตามัวนิดหน่อย แต่ยังมองเห็นอยู่ ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือพาเขาไปตรวจเช็กสุขภาพตากับจักษุแพทย์ การตรวจเช็กสุขภาพตาจะสามารถตรวจได้ทั้งโรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือโรคต้อหินซึ่งมักจะเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ แต่จะไม่มีอาการ หรือสัญญาณเตือนในช่วงแรก ๆ รู้ตัวอีกทีก็ใกล้จะมองไม่เห็นแล้ว

ผู้สูงอายุอาจจะกลัวการไปตรวจสุขภาพตา หรือรักษาโรคตา ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น อย่างการผ่าตัดต้อกระจกก็หยอดยาชาแล้วผ่าตัดได้เลย ใช้เวลาไม่นาน ผ่าเสร็จกลับบ้านได้เลย พอผ่าแล้ววันต่อมาก็มองเห็นชัดเจนขึ้น และพอเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนเลนส์ตาที่เสื่อมไป ก็จะสามารถใช้เลนส์นั้นไปได้ตลอดชีวิต โดยที่สายตาจะไม่ยาวขึ้นอีก แล้วเขาก็จะสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้คล่องตัวขึ้น ขับรถได้ อ่านหนังสือได้ โดยไม่ต้องพกแว่นติดตัวอยู่ตลอด หรือผู้สูงอายุ​บางคนที่เคยมองไม่เห็นเพราะเป็นโรคต้อกระจก​ พอผ่าตัดไปก็กลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม​ ดังนั้น การให้ข้อมูล ให้ความรู้ บอกเขาว่าเขากำลังจะถูกทำอะไร และผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะทำให้เขาไม่กลัว และตัดสินใจที่จะมารักษาแน่นอน

“เราอยากดูแลคนไข้ให้เหมือนกับการดูแลเพื่อน ดูแลญาติ ให้ข้อมูลเขาเหมือนกับที่เราให้ข้อมูลพ่อแม่ หรือคนใกล้ตัวของเรา สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือ การให้เขารู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ต้องรักษาแบบไหน เพื่อให้เขาให้ความร่วมมือ และอยากรักษามากขึ้น”

สนใจสอบถามได้ที่โรงพยาบาลจักษุ อินซ์ บางนา กม.7

Tel : 02-055-8888

Line : @inzhospital → https://lin.ee/y2R1q5E

Website → https://inzhospital.com

Instagram → https://www.instagram.com/inzhospital

Youtube → https://www.youtube.com/@inZHospital

TikTok →  https://www.tiktok.com/@inz.hospital

Credits

Author

  • มนุษย์ต่างวัย

    Authorพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสังคมสูงวัยในมุมที่สนุก สร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัย

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ