ภารกิจคืนแรงบันดาลใจให้แม่กลับมาออกกำลังกายและสดใสอีกครั้ง

“ไม่ว่ายังไงต้นทุนในการดูแลสุขภาพก็ถูกกว่าต้นทุนในการซ่อมแซมสุขภาพ ยิ่งถ้าเราไม่ได้ดูแลร่างกายมาตั้งแต่แรก แต่รอให้เจ็บป่วยแล้วค่อยมาฟื้นฟูทีหลัง ก็ใช่ว่าร่างกายเราจะกลับมาเหมือนเดิมได้” 

มนุษย์ต่างวัยพาไปคุยกับคู่ซี้แม่ลูกสายสุขภาพ โบ – กิรณา นันทนาธามน ลูกสาววัย 38 ปี ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายมาจากคุณแม่ จนกลายมาเป็นสปอร์ตเกิร์ล กับ แม่ขวัญ – ธารณา นันทนาธามน คุณแม่วัย 66 ปี ที่หมดแพสชันในการออกกำลังกายเพราะมีปัญหาสุขภาพและเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง 

ด้วยความที่ไม่อยากเห็นคุณแม่หมดใจและใช้เวลาไปกับการนั่ง ๆ นอน ๆ ภารกิจในการคืนแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายให้แม่จึงเกิดขึ้น คุณโบลุกขึ้นมาชวนแม่ออกกำลังกายแบบลดแรงกระแทก (Low Impact Workouts) พร้อมไปกับดูแลเรื่องการกินอาหาร เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรง และใช้ชีวิตแบบ “กินดีมีสุข” ไปด้วยกันนาน ๆ 

โดยมิชชันในการชวนแม่กลับมาออกกำลังกายครั้งนี้ ยังได้กลายมาเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจไปถึงคนอื่น ๆ ด้วยคลิปน่ารักของการออกกำลังกายแพ็กคู่ของคุณโบและคุณแม่อีกด้วย

“บางคนที่ได้ดูคลิปเรา เขาก็ทักมาชมคุณแม่ หรือไม่ก็ทักมาขอบคุณที่เราทำคลิปแบบนี้ ทุกวันนี้แค่มีคนแชร์คลิปเราไปชวนแม่ตัวเองออกกำลังกาย เราก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”

“สมัยสาว ๆ แม่ชอบเต้นมาก ตอนนั้นแอโรบิกเพิ่งเข้ามาในประเทศไทย แม่ก็ไปเต้น แต่งตัวไปเต็มที่ แม่ชอบที่ได้เห็นตัวเองหุ่นดี อีกอย่างได้เต้นกับเพื่อน ๆ ด้วย ยิ่งพอมีโอกาสได้ไปประกวด ก็ยิ่งรู้สึกสนุก ย้อนกลับไปประมาณ  5 – 6 ปีก่อน แม่เริ่มเล่นแบดมินตัน พอได้เล่นก็ชอบ ก็ติด เพราะสนุก แม่ชอบอะไรที่ได้แข่งขันกัน ทำให้เรารู้สึกได้ท้าทายตัวเอง”

แม่ขวัญเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นในการเป็นคนรักการออกกำลังกายให้เราฟัง

.“แม่เป็นนักกีฬาและชอบออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม่รู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ต้องทำ ทำแล้วเราก็มีความสุขด้วย แค่เหงื่อออกก็รู้สึกดีแล้ว อีกอย่างการออกกำลังกายทำให้เราได้เจอเพื่อน ๆ เจอสังคม ได้คุยกัน ถือเป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่ง แม่ทำแบบนี้มาตลอดจนรู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว 

“จุดเปลี่ยนในการออกกำลังกายของแม่เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2-3 ปีที่แล้ว ที่เป็นช่วงโควิด ทำให้แม่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เพราะไปไหนไม่สะดวก สนามกีฬาก็ปิด พอโควิดเริ่มซา แม่ก็กลับไปออกกำลังกายอีกครั้ง แล้วเหมือนเส้นมันตึง พอขยับผิดท่า ทำให้เส้นหลังเข่าเราอักเสบ เกิดอาการบาดเจ็บจนเดินไม่ได้เป็นอาทิตย์ ต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยพยุง ตอนนั้นแม่เลยหยุดออกกำลังกายไปเลย หยุดไปเป็นปี ตอนนั้นแม่ตกใจมาก เลยคุยกับตัวเองว่า เราอายุขนาดนี้ คงจะออกกำลังกายจริงจัง หรือเต็มที่อย่างเดิมไม่ได้แล้ว”

“ตั้งแต่จำความได้ โบไม่เคยเห็นแม่อ้วนเลย นอกจากตอนตั้งท้องน้อง แม่เป็นคนแอคทีฟและชอบออกกำลังกายมาก เมื่อก่อนบ้านเราอยู่ใกล้สนามราชมังคลากีฬาสถาน พอมีเวลาว่างเราก็จะไปเดินด้วยกันตลอด แม่เดินเก่งมาก เดินทีเป็นชั่วโมง ๆ ถึงจะกลับบ้าน

“ตอนที่แม่เจ็บเข่าแล้วหยุดออกกำลังกายไป แม่นอนเยอะมาก เพราะเขาไม่ค่อยได้ไปไหน ไม่มีอะไรทำ เราไม่อยากให้แม่นอนเยอะ บางครั้งแม่นอนเยอะมากจนตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัว เราก็เลยคิดว่าชวนแม่กลับมาออกกำลังกายดีกว่า 

“เราให้แม่ออกกำลังกายแบบ Low Impact Workouts ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อของแม่ให้แข็งแรงขึ้น และไม่ทำให้เจ็บเข่า ด้วยการเล่นบอดี้เวท แม้ว่าแม่จะไม่ใช่สายเวท และไม่เคยออกกำลังกายแบบนี้มาก่อน เพราะเขาถนัดเล่นกีฬา ไปวิ่ง ไปตีแบดฯ อะไรแบบนั้นมากกว่า แต่แม่ก็ตอบตกลง และเปิดใจที่จะเรียนรู้เต็มที่

“บอดี้เวทที่เราชวนแม่มาเล่น เน้นใช้น้ำหนักร่างกายมากกว่าอุปกรณ์ เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องกระโดด หรือจะใช้วิธีนั่งออกกำลังกายก็ได้ สำหรับคนที่อยากเริ่มออกกำลังกายแบบนี้ สามารถเริ่มได้เลย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมาก หรือถ้าใครชอบเล่นกีฬา การว่ายน้ำหรือปั่นจักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะช่วยลดแรงกระแทก เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ไม่เป็นอันตรายต่อข้อต่อ เหมาะกับผู้สูงอายุ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการเจ็บเข่าเหมือนกับคุณแม่

“ใน 1 อาทิตย์ เราจะชวนแม่มาออกกำลังกายด้วยกันอย่างน้อย 3 วัน เราจะคุยกับแม่ตลอด ว่าวันนี้จะออกกำลังกายกันกี่ท่า ใช้ท่าอะไรบ้าง เราจะคุยกันตลอดว่าแม่ไหวไหม ทำท่านี้ได้ไหม ทำแล้วเจ็บเข่ารึเปล่า ถ้าวันไหนแม่เหนื่อย แต่เขายังอยากออกกำลังกาย เราก็จะพาแม่ออกประมาณ 15 นาที แต่ถ้าวันไหนร่างกายแม่โอเค เราก็ให้แม่ออกให้ครบ 30 นาทีเลย”

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว คุณโบและคุณแม่ยังให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบกินดีมีสุข โดยคุณโบเป็นสายแพลนท์เบส ขณะที่คุณแม่ พออายุมากขึ้น นอกจากจะเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว คุณโบยังดูแลเพิ่มเติมด้วยอาหารเสริมเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้คุณแม่กลับมาแข็งแรงและสนุกไปกับการออกกำลังกายด้วยกันอีกครั้ง

“เรื่องอาหารการกินเป็นอีกเรื่องที่ครอบครัวเราให้ความสำคัญ แม่จะเน้นกินผักเป็นหลักและเลือกโปรตีนที่ย่อยง่ายอย่างเนื้อปลา เน้นปรุงอาหารด้วยการต้ม นึ่ง หลีกเลี่ยงการทอด หรือการใช้น้ำมัน ส่วนขนมก็กินบ้างนิดหน่อย ไม่ได้ตัด แต่ส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนทำเอง ทำให้เราคุมเรื่องวัตถุดิบได้ ของกินเล่นก็จะเน้นเป็นพวกธัญพืช อย่างเช่น ถั่ว ลูกเดือย 

“นอกจากนี้เรายังเลือกที่จะให้แม่กินอาหารเสริมด้วย โดยเฉพาะส่วนที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อและข้อเข่า ให้คุณแม่ยังใช้ชีวิต ยังทำสิ่งที่อยากทำได้อย่างเต็มที่ เพราะเมื่อกินอาหารดี สุขภาพร่างกายจิตใจก็จะดี และชีวิตก็จะมีความสุข”

“เราดีใจที่ได้เห็นแม่กลับมาออกกำลังกาย และทำสิ่งที่เขารักได้อีกครั้ง เลยคิดว่าอยากอัดคลิปออกกำลังกายกับแม่ลงติ๊กต๊อก เพราะเราอยากให้แม่เป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้สูงอายุคนอื่นหันมาดูแลสุขภาพ และออกกำลังกายด้วย บางคนที่ได้ดูคลิปเรา เขาก็ทักมาชมคุณแม่ หรือไม่ก็ทักมาขอบคุณที่เราทำคลิปแบบนี้ ทุกวันนี้แค่มีคนแชร์คลิปเราไปชวนแม่ตัวเองออกกำลังกาย เราก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว 

“อายุไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการเริ่มต้นดูแลสุขภาพ ยิ่งเริ่มได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี เราสามารถเริ่มออกกำลังกายได้ง่าย ๆ ด้วยการเดินในบ้าน ถ้าลูก ๆ กลัวพ่อแม่ออกกำลังกายคนเดียวแล้วจะเหงา ก็อาจจะชวนพ่อแม่มาออกกำลังกายด้วยกัน หาสิ่งที่ชอบ คุยกันแล้วปรับให้เหมาะสม โดยต้องนึกถึงผู้สูงอายุก่อนเสมอ เพราะว่าพออายุมาก ร่างกายเขาไม่สามารถทำอะไรได้คล่องแคล่วหรือรวดเร็วเท่าคนหนุ่มสาวแล้ว ซึ่งนอกจากจะได้สุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ และใช้เวลาคุณภาพร่วมกันของคนในครอบครัวด้วย”

แม่ขวัญเล่าเสริมว่า “แม่มีความสุขมากที่ได้กลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง รู้สึกร่างกายสดชื่นขึ้น ช่วงแรกร่างกายเราอาจจะยังไม่ชินกับการออกกำลังกายแบบนี้ แต่พอเราทำบ่อย ๆ ทำทุกวัน เราก็จำท่าทางได้เอง อีกอย่างการได้ออกกำลังกายกับลูกแบบนี้ ก็ทำให้เรามีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน ได้ยิ้ม ได้หัวเราะด้วยกัน แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว”

รู้หรือไม่ว่าเราจะมีมวลกล้ามเนื้อสูงที่สุดในช่วงอายุ 30 – 40 ปี แต่หลังอายุ 40 ปีเป็นต้นไป มวลกล้ามเนื้อก็จะเริ่มลดลงร้อยละ 1 – 2 ต่อปี และเมื่ออายุ 50 – 60 ปี ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อก็จะลดลงตามไปด้วย และจะยิ่งลดลงเร็วขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น นี่จึงเป็นสาเหตุให้ผู้สูงวัยที่มีภาวะกล้ามเนื้อน้อยมีปัญหาเรื่องการทรงตัว การเคลื่อนไหว และมีความเสี่ยงในการพลัดตกหกล้ม  

เราสามารถป้องกันภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลือกรับประทานอาหารให้ครบถ้วน รวมไปถึงอาหารที่มีกรดอะมิโนสูง เพราะกรดอะมิโนคือหน่วยเล็กที่สุดของโปรตีน มีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมสร้างและคงสภาพของมวลกล้ามเนื้อ 

โดยปกติกรดอะมิโนจะมีทั้งหมด 20 ชนิด แต่จะมีเพียง 9 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ เรียกว่า ‘กรดอะมิโนจำเป็น’ ซึ่งร่างกายจะได้รับกรดอะมิโนเหล่านี้ได้จากการรับประทานอาหารทั่วไป เช่น เนื้อ ปลา ไข่ ถั่วเหลือง หรือนม แต่การย่อยสลายโปรตีนจนกลายเป็นกรดอะมิโนนั้น ร่างกายจะต้องทำงานหนักและใช้เวลานาน

อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนจำเป็นและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ AminoMOF (อะมิโนมอฟ) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ประกอบด้วย Histidine, Isoleucine, Leucine, Lysine, Methionine, Phenylalanine, Threonine, Tryptophan และ Valine ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที เป็นผลิตภัณฑ์ที่ชงดื่มง่าย ไม่มีน้ำตาล แคลอรีต่ำ  มีส่วนผสมของคอลลาเจน ช่วยในเรื่องผิวพรรณและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความฟิต ให้ชีวิตเอ็นจอยได้ในทุกมูฟ

ติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/AjinomotoAminoHouse?locale=th_TH 

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ