เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา มนุษย์ต่างวัยเชิญชวนเพื่อนๆ ในวัย 50+ มาเปิดประสบการณ์เต้น Cover K-POP ที่ Mystreetstudio สตูดิโอสอนเต้นเพื่อสร้างความสุขในชีวิต ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับจากเพื่อนๆ ดีเกินคาด โดยทุกคนที่มานอกจากจะได้เต้นร่วมกันแล้ว ยังได้รับแรงบันดาลใจ ความเชื่อมั่น เพื่อนใหม่ รวมถึงพลังงานดีๆ กลับไปอีกด้วย วันนี้เราเลยนำความรู้สึกบางส่วนของเพื่อนๆ ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมมาแบ่งปันเพื่อยืนยันว่า “วัยไม่ใช่ขีดจำกัดในการใช้ชีวิต” และไม่ยากเกินไปถ้าเราจะเดินออกจากเซฟโซน
ดลภา สาลีโภชน์ (เปิ้ล) อายุ 52 ปี
พนักงานบริษัทเอกชน ฝ่ายต่างประเทศ
“เดิมทีเราเป็นคนเต้นไม่เป็นเลย ร้องเพลงก็เพี้ยน แต่เราชอบฟังเพลงที่มีจังหวะสนุกๆ เพลงมันส์ๆ และชอบดูเอ็มวีที่มีวัยรุ่นเต้นกันเป็นกลุ่ม เราเลย มีความฝันว่าอยากลองเต้นให้เข้ากับจังหวะเพลงแบบในเอ็มวี ให้ได้สักครั้งในชีวิต
“เราอยากทำอะไรที่หลุดจากกรอบชีวิตประจำวันเดิมๆ ไม่อยากแค่ไปทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียน แล้วก็กลับบ้านมานอน ตอนแรกเห็นกิจกรรมนี้ก็กังวลอยู่บ้าง กลัวอายถ้าเต้นไม่เข้าจังหวะกับคนอื่น แต่ด้วยความที่เราอยากหาอะไรสนุกๆ ให้ชีวิต ก็เลยอยากลองดู ปรากฏว่าพอมาเจอคนอายุใกล้ๆ กันที่อยากทำอะไรเหมือนๆ กัน มันเลยช่วยให้เรามีความมั่นใจในตัวเองขึ้น
พอเราได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ กล้าออกมาจากเซฟโซนของตัวเอง กลายเป็นว่ามันดีต่อทั้งร่างกาย และจิตใจเราจริงๆ เลยอยากฝากถึงคนที่อยู่ในวัยเดียวกันให้ออกมาลองทำสิ่งที่อยากทำ โดยไม่ต้องกังวลว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง แต่ที่สำคัญ ขอให้เราทำแล้วมีความสุขที่จะทำก็พอ”
เรมวดี ตูยปาละ เสงี่ยมรักษ์ (ไก่ ) อายุ 49 ปี
ประกอบธุรกิจออนไลน์
“สมัยเรียน เราเป็นคนผลการเรียนอยู่ในระดับกลางๆ แต่อีกมุมหนึ่งเราก็เป็นเด็กกิจกรรม ชอบความสนุกสนาน ชอบการแสดง เลยมีโอกาสได้เต้นในงานมหาวิทยาลัยบ้างพอเริ่มทำงานต้องวุ่นอยู่กับปัญหาในชีวิตหลายอย่าง เลยไม่ได้กลับไปเต้นอีก แต่ในใจยังคงรักและรอคอยโอกาสที่จะได้กลับมาเต้นอยู่เสมอ เวลาเห็นลูกกับเพื่อนๆ ของเขาเต้นเพลงวัยรุ่นด้วยกัน เราก็อยากเต้นบ้าง แต่ก็คิดว่าร่างกายตัวเองคงไม่คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และสมัยนี้ก็แทบไม่ค่อยมีโรงเรียนสอนเต้นคนวัยเราเท่าไหร่ ก็เลยคิดว่าวัยอย่างเราคงกลับมาทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่จู่ๆ เพื่อนที่ทำงานด้วยกันก็มาบอกว่า มนุษย์ต่างวัยเปิดพื้นที่ให้คนวัยเราไปเต้นด้วยกัน วินาทีนั้นเรายอมวางงานทุกอย่างลง แล้วก็บอกกับตัวเองว่าฉันต้องมาร่วมงานนี้ให้ได้!!!”
“ ตอนแรกก็กลัว เพราะห่างการเต้นไปนาน แถมต้องมาเต้นพร้อมกับคนอีกว่า 20 คน ที่เราไม่รู้จัก แต่พอมาถึงจริงๆ กลับรู้สึกว่าทุกคนเป็นกันเองมาก ทีมงานมนุษย์ต่างวัยก็ต้อนรับเราอย่างดี บรรยากาศอบอุ่นทั้งๆ ที่เราไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน แถมก่อนเต้นยังมีช่วงที่ให้ทุกคนเปิดใจคุยกัน ทำให้เราผ่อนคลาย เหมือนพื้นที่นี้มีแต่คนวัยเรา เราเลยกล้าเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
“เราไม่คิดเลยว่าจะมีคนวัยเดียวกับเราที่สนใจการเต้นเยอะขนาดนี้ มีทั้ง ทันตแพทย์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ครูสอนว่ายน้ำ และอีกหลากหลายอาชีพ โดยมีทั้งคนที่เต้นเป็น และคนที่ไม่มีพื้นฐานเลย แต่สิ่งที่เราประทับใจที่สุดคือการที่ทุกคนกล้าออกมาจากเซฟโซน เพื่อนมาลองทำอะไรใหม่ด้วยกัน ซึ่งทำให้เรารู้ว่าอายุมันเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ
สำหรับเราที่อายุเท่านี้ ต้องหันกลับมาบอกตัวเองแล้วว่า มีอะไรที่ยังอยากทำอยู่ ก็ต้องรีบทำเลย ต้องสร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้ตัวเอง และถ้าเราทำสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงได้ ชีวิตต่อจากนี้ของเราก็จะสามารถเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างที่เข้ามาได้”
วรวุฒิ ระกิติ (วุฒิ) อายุ 55 ปี
พนักงานรัฐวิสาหกิจ
“แต่ก่อนก็มีเพื่อนวัยเดียวกัน ไปเที่ยว ไปเต้นด้วยกัน พอเริ่มเข้าวัย 30 เพื่อนก็เริ่มแต่งงานมีครอบครัว เลิกเที่ยว เลิกเต้นกันหมดแล้ว เราอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว คนมีครอบครัวต้องพาลูกไปโรงเรียน ต้องดูแลลูกหลาน เขาได้มองเห็นการเจริญเติบโตของเด็กๆ แต่ชีวิตเราไม่มีสิ่งนี้ มันทำให้เราต้องหากิจกรรมทำ เราพบว่าตัวเองให้คุณค่ากับการออกกำลังกายและโชคดีมากที่ได้มาเจอการเต้น ตอนไปคนเดียวแรกๆ ก็คิดนะว่าคนจะมองเราหรือเปล่า เราอายุเยอะแล้ว มีแต่เด็กๆ แต่นั่นเราคิดไปเอง คนเขามองเราแล้วก็ผ่านไป ไม่มาสนใจหรอกว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ยิ่งตอนนี้มีโทรศัพท์มือถือกันทุกคน ไม่มีใครสนใจใครหรอก เราเองก็สนใจแต่มือถือของเรา ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอของเราไป มีความสุขมาก
ทุกวันนี้เรายังไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวอยู่ ยืนได้ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน เหนื่อยก็พัก ยามว่างก็ผ่อนคลาย ใช้เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ติ๊กต๊อก เหมือนเด็กทุกวันนี้นั่นแหละ เราชอบสังเกตว่าเด็กทุกวันนี้เขาคิดอะไร ทำอะไรกัน จนเราเป็นทีมเด็กไปแล้ว”
“ถึงตอนนี้ เราไม่เคยคิดว่าตัวเองอายุเยอะเลย เราทำได้ทุกอย่างที่คนอื่นทำได้ เรารักการเต้น รักการดูคอนเสิร์ตมาตั้งแต่ตอนวัยรุ่น ถึงตอนนี้เราก็ยังทำอยู่ เราได้ไปฟังเพลงที่ชอบ ได้เจอศิลปินที่รัก ได้เต้น มันทำให้เรามีความสุข ลืมเรื่องงาน ทำให้มีแรงกลับไปทำงานต่อ อายุเท่านี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ต้องหยุด ไม่ทำอะไรอีกแล้ว แต่มันยิ่งต้องรีบค้นหาว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วลงมือเลยต่างหาก”
บุษรา ปัตถะมะ (เกี้ยม) อายุ 55 ปี
ครูสอนว่ายน้ำ
“เราเคยมีปมในใจว่าอายุเท่านี้จะมาออกกำลังกายแบบเด็กคงไม่ได้ แต่วันนี้เราได้เห็นตัวเองในกระจก ได้เห็นตัวเองยิ้ม ได้หัวเราะ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ มันเหมือนเราได้หลุดจากกรอบของตัวเอง
“อย่าอายที่จะเต้น การเต้นเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก ปล่อยใจให้สนุก ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ไม่มีอะไรต้องอาย ปล่อยร่างกายให้เป็นอิสระ ยิ่งถ้าเรารู้จักจังหวะ ทั้งอวัยวะภายใน กระดูก ข้อต่อ และระบบหายใจของเราจะดีไปหมด”
“เราเป็นครูสอนว่ายน้ำ ปกติไม่เคยเต้นเลยเห็นแต่เด็กๆที่มาเรียนเขาไปเรียนเต้นกันมาแต่เราก็ไม่รู้ความรู้สึกเขา แต่วันนี้รู้แล้ว จากนี้เต้นสู้เด็กๆได้สบาย
จุไรรัตน์ สินแสง (จุง) อายุ 58 ปี
นักเรียนเต้น Cover Dance
“ดีใจมากที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ทำให้คนที่อยู่ใน Comfort zone กล้าก้าวออกมาทำอะไรใหม่ๆ เราได้เห็นทุกคนเอาอินเนอร์ออกมา สร้างพลังบวกไปด้วยกัน ใจมันฟู มันมีชีวิตชีวา สดชื่น ลืมเรื่องลบๆไป
“เราเห็นคนยิ่งอายุเยอะขึ้นกลับทำกิจกรรมน้อยลง ร่างกายเราจะเปลี่ยนแปลงไป แต่มันยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังทำได้ อยากให้ทุกคนที่มีสิ่งที่อยากทำก้าวออกมาเลย อย่ากลัวว่าจะทำไม่ได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะเจออะไร มีอีกหลายอย่างที่รอให้เราค้นพบอยู่”