‘แก่อย่างเก๋า’ กับคุณลุงเกาหลี เพราะพวกเขาคือแด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ!

โปรดเรียกเราว่า ‘อาจอชี’!

‘อาจอชี’ (아저씨) คือนิยามที่พวกเขาเรียกตัวเอง คำที่ในภาษาเกาหลีใช้เรียกชายวัยกลางคน หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘ลุง’ นั่นเอง พวกเขาคือ 8 นายแบบรุ่นใหญ่แห่ง ‘เดอะนิวเกรย์’ (The New Grey) อิริยาบถเท่ ๆ ของบรรดาลุง ๆ ถูกโพสต์ให้เห็นทางโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเดินเหินไปไหนต่อไหนบนท้องถนน หรือเพียงแค่นั่งจิบกาแฟยามบ่ายในวันสบาย ๆ ที่ออฟฟิศ ไม่ว่าเหล่าลุงจะทำอะไรก็ชวนมองไปเสียหมด ราวกับเรากำลังนั่งดูลุกบุ๊ก หรือนิตยสารแฟชั่นไม่มีผิด

“คำว่า อาจอชี คนทั่วไปอาจคิดถึงพวกคนแก่หัวดื้อ จู้จี้ขี้บ่น แต่พวกเราจะไม่ยอมเป็นแบบนั้น เราอยากใกล้ชิดกับคนหนุ่มสาวให้มากขึ้นผ่านแฟชั่นการแต่งกาย ช่วงแรก เราเริ่มจากการแต่งตัวก่อน แล้วต่อจากนั้นเราก็เริ่มเต้น” คุณลุง Hong In-kook วัย 64 ปี หนึ่งในสมาชิกผู้ทำหน้าที่สร้างเสียงหัวเราะในกลุ่มเล่าถึงที่มา

นอกจากแฟชั่นการแต่งกายที่เรียบง่ายแต่ถูกจัดแต่งมาอย่างดีมีสไตล์แล้ว ท่วงท่าอันมีชีวิตชีวาบวกกับร่างกายที่ดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงของคุณลุงทั้ง 8 คน มักปรากฏให้เราเห็นในอิริยาบถต่าง ๆ กลางเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นที่ออฟฟิศ สวนสาธารณะ ดาดฟ้าตึก บันไดเลื่อน หรือแม้กระทั่งทางม้าลายบนท้องถนน ประกอบกับฝีมือการถ่ายรูป-ตัดต่อวิดีโอคลิประดับเทพ ยิ่งทำให้เหล่าอาจอชีกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก และไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน รับรองเลยว่าถ้าได้เห็นแล้วคงอยากรีบกระโดดลุกจากเตียงนอน เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดมามิกซ์แอนด์แมตช์แล้ววิ่งออกนอกบ้านไปทำงานอย่างสดใสและใช้ชีวิตสนุกไปทุกวัน

จริง ๆ เหล่า 8 ลุงเขาไม่ได้มารวมตัวกันเองนะ แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังความคูลนี้

และนี่คือโฉมหน้าของคุณ Kwon Jung-hyun ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเดอะนิวเกรย์ และกลุ่มอาจอชี เห็นยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ แต่กลับมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ว่าสังคมสูงวัยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศเกาหลี

“ก่อนจะมาเป็นอาจอชีอย่างทุกวันนี้ ผมเคยทำแคมเปญเมกโอเวอร์ชื่อ Change my dad’s profile picture มากว่า 2 ปี ในช่วงนั้นผู้สูงอายุหลายรายเริ่มติดต่อมาหาเราในทำนองเดียวกันว่า ถ้าพวกเขาได้ลองแต่งตัวสไตล์นี้บ้างก็น่าจะเป็นนายแบบได้เหมือนกัน เราจึงลองเปิดรับสมัครและคัดเลือกผู้สูงวัย 15 คน ให้มาเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี รวมทั้งการถ่ายรูปและโพสต์รูปในอินสตาแกรมด้วย

“สำหรับกลุ่มอาจอชีนี้ ตอนแรกพวกเขาไม่รู้จักวิธีใช้โซเชียลมีเดียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม นับตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาโพสต์วิดีโอคลิปลงในติ๊กต็อก วันนี้พวกเขาโด่งดังจนกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ไปแล้วเรียบร้อย

“คลิปที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักน่าจะเป็นคลิปที่เดินลงจากบันไดเลื่อน มันกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก มีคนมาคอมเมนต์ว่า นี่มันวง BTS 2050 นี่นา หรือไม่ก็เป็นวง K-Pop ชื่อดังอย่าง Super Junior หรือ EXO บ้างละ จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นมีม และกลายเป็นคลิปที่มียอดเข้าชมถึง 9.8 ล้านครั้ง” คุณ Kwon Jung-hyun เล่า

‘เดอะนิวเกรย์’ ประสบความสำเร็จมากในประเทศเกาหลีจนมีสื่อมาขอสัมภาษณ์คุณ Kwon Jung-hyun ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังของเหล่าอาจอชีที่ค้นพบความสนุกในการทำงาน ลงในหนังสือชื่อ 별일, 하고 산다 (I Live by Doing Something) ด้วย

‘เดอะนิวเกรย์’ มีโปรเจกต์ร่วมกับบริษัทชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงแคมเปญเมกโอเวอร์ที่จับคนสูงวัยในแต่ละสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ชาวนา หรือแม้กระทั่งทหารผ่านศึก มาปรับเปลี่ยนการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันที่พวกเขาไม่เคยสวมใส่มาก่อน แม้การเมกโอเวอร์จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำให้พวกเขาได้มองเห็นตัวเองในแบบที่ต่างออกไป การสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันมากไปกว่าเรื่องความสวยงาม แต่กลับทรงพลังถึงขึ้นสร้างคุณค่าและความมั่นใจให้กับคนคนหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ

“เราคงไม่สามารถเมกโอเวอร์คนทั้ง 50 ล้านคนทั่วเกาหลีได้หรอก เราเลยจำเป็นต้องมีใครสักคนสื่อสารสิ่งเหล่านี้ออกไป และพวกเขาคือเหล่าอาจอชีนั่นเอง สิ่งที่ผมอยากบอกทุกคนคือ คุณไม่จำเป็นต้องเลิกแต่งตัวเพียงเพราะคุณแก่แล้ว ถ้าคุณเชื่อว่าคุณยังดูดี ยังไงมันก็ออกมาดูดี แค่นั้นแหละ” Kwon Jung-hyun ผู้ก่อตั้งกล่าวเสริม

แคมเปญเมกโอเวอร์คัดเลือกคนหลากหลายอาชีพ อย่างคุณพี่คนนี้ที่เคยใส่แต่ชุดเครื่องแบบทหารมาทั้งชีวิต พอลองได้มาใส่กางเกงยีนดู นอกจากจะดูเท่ขึ้นแล้ว เขายังบอกว่าค้นพบความสบายแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนทั้งชีวิตด้วย

หรืออย่างคุณพี่คนนี้ที่ทำงานหนักมาตลอด 34 ปี พอลองให้นึกถึงวัยเกษียณ เขากลับไม่ได้รู้สึกหดหู่หรือเปลี่ยวเหงาใด ๆ แต่กลับคิดว่า นี่ต่างหากคือเวลาแห่งการพักผ่อน แม้เสื้อผ้าอาจไม่ได้ช่วยให้คนเราเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่การมีทัศนคติที่ดีจากภายในจะถูกส่งผ่านสีหน้าและแววตาออกสู่ภายนอก และช่วยให้ทุกคนสามารถมีชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขได้เช่นกัน

เห็นการเมกโอเวอร์ของคนอื่น ๆ ไปบ้างแล้วใช่ไหม ลองมาดูกันว่าบรรดาอาจอชีของเรามาไกลแค่ไหนกัน

ประเดิมด้วยคนแรกเลย นี่คือภาพ Before & After ของคุณลุง Lee Jung-woo วัย 66 ปี ผู้เป็นหัวหน้าทีม และมือถ่ายภาพอันดับหนึ่งของกลุ่ม

“เวลาคุณมองผู้สูงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเรา คุณจะเห็นว่าเขาเริ่มจะยอมแพ้กับทุกอย่าง เพราะทุกคนล้วนต่างอุทิศตัวให้กับครอบครัวและการงานมาทั้งชีวิตจนละเลยที่จะดูแลตัวเอง แต่ผมยังหวังอยู่เสมอว่าคนที่อยู่ในวัยเดียวกับเราจะเปลี่ยนความคิดพวกนั้นเสีย ขอให้ทุกคนหันมาลงทุนกับตัวเอง และอย่าลืมทำชีวิตให้สนุกอยู่เสมอ”

คนต่อมาคือคุณลุง Joung Seung-hoon วัย 58 ปี ไม่น่าเชื่อว่าแค่เปลี่ยนการแต่งกายนิดเดียว แต่ทำคุณลุงหนุ่มขึ้นเป็นกองโดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่มีราคาแพงเลย

“แต่ก่อนผมจะแต่งตัวให้เรียบร้อยและเลือกใส่อะไรก็ได้ที่คิดว่าน่าจะดูดีตามวัย แต่ตอนนี้ผมรู้จักแต่งตัวมากขึ้น เพื่อนยังทักว่าแม้ผมจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้ามีราคาอะไร แต่มันก็ดูดีมาก ๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกดีจริง ๆ

“บางครั้งเราได้ยินคนบอกว่า พวกเราคือต้นแบบ หรือบอกว่าเมื่อเขาอายุเท่าพวกเราก็อยากจะดูดีแบบนี้บ้าง มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจจริง ๆ” คุณลุงมือวางอันดับหนึ่งเรื่องการเต้นของทีมกล่าว

และคนสุดท้ายที่ยกมาให้ดูคือคุณลุงคนนี้ บอกเลยว่าโดนใจชาวมนุษย์ต่างวัยที่สุด เพราะจากแต่ก่อนที่ดูเป็นคุณลุงธรรมดา ๆ แถมเวลาเจอผลหมากรากไม้อะไรใหญ่ ๆ ดูน่ากิน ๆ ก็จะชอบยกขึ้นมาแล้วถ่ายรูปคู่ ทำให้นึกถึงพ่อ ๆ แม่ ๆ เราไม่มีผิด แต่วันนี้คุณลุงกลายเป็นแด๊ดดี้สุดชิก ที่ดูยังไงก็เท่ไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า จากที่เคยยืนถือพืชผลทางการเกษตรตามท้องไร่ก็กลายเป็นถือกระเป๋าแคนวัสสุดจึ้งแล้วยืนอยู่ในเมืองใหญ่แทน แม้เราจะไม่รู้เลยว่าข้างในกระเป๋าแอบใส่ต้นพริกแดงนั่นไว้หรือเปล่า แต่มันก็ดูเท่สุด ๆ ไปเลย แถมคุณลุงดูเหมือนจะอายุน้อยลงไปเป็นสิบปีด้วยซ้ำ

คุณลุง Hong In-kook วัย 64 ปี เล่าว่า แต่ก่อนตัวเองก็คิดเหมือนคนทั่วไปว่าคนที่จะมาทำอาชีพนายแบบได้ ต้องเป็นคนที่ดูดี ดูพิเศษมาก ๆ เท่านั้น แต่สมัยนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว อาชีพนายแบบไม่ได้ขึ้นกับว่าคุณมีรูปร่างที่ดีหรือสวยหล่อหรือไม่ แต่เป็นงานที่อาศัยประสบการณ์มากกว่า

“จะหน้าตาหล่อเหลา ขี้เหร่ อ้วน หรือผอม สิ่งเหล่านั้นไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย แต่การใช้ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของคุณมาต่างหากที่ทำให้คุณกลายเป็นคนต้นแบบ

“ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องไปเดินป่าหรือไปคลับบิลเลียด (แบบวัยรุ่นหนุ่มสาว) หรอก คุณแค่ก้าวไปข้างหน้า ท้าทายตัวเองให้ทำสิ่งใหม่ ๆ ผมหวังว่าพวกเราจะส่งผลทางบวกให้สังคม และทำให้ผู้คนมองเห็นว่าผู้สูงอายุก็ดูดีได้เหมือนกัน และอุตสาหกรรมโฆษณาควรจ้างผู้สูงอายุให้มากขึ้น”

ปัจจุบัน แบรนด์เสื้อผ้า ‘เดอะนิวเกรย์’ กลายเป็นสินค้าขายดีในประเทศเกาหลี พวกเขาตั้งใจผลิตขึ้นสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุชาวเกาหลีเป็นหลัก หรือที่เรียกว่ากลุ่มอาจอชี (ajuhssis) และอาจุมม่า (ajummas) แถมยังมีคอร์สอบรมการใช้โซเชียลมีเดียอย่างอินสตาแกรม การถ่ายรูป และตัดต่อวิดีโอสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงร่วมแคมเปญกับสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากีฬาอย่างรองเท้า New Balance และ HOLKA เสื้อผ้าอย่าง Uniqlo รถยนต์อย่าง Mini Cooper และ KIA รวมถึงมีดโกนหนวดอย่าง Gillette ด้วย

เดอะนิวเกรย์และกลุ่มอาจอชีเปรียบเสมือนการปฏิวัติความคิดที่ผู้สูงวัยส่วนใหญ่เชื่อ ทั้งการเหนื่อยหน่ายกับชีวิต สิ้นหวัง หดหู่กับชีวิตที่เหลืออยู่อีกไม่มาก พลอยทำให้เบื่อหน่ายกับการดูแลตัวเอง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม หรือความมั่นใจภายใน รวมถึงคุณค่าในตัวเองที่กำลังลดน้อยลงทุกทีเพียงเพราะความเสื่อมถอยของร่างกาย

แต่เหล่าอาจอชีทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจว่านอกจากการปรับเปลี่ยนการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าง่าย ๆ ที่หาได้ทั่วไป ลองจัดแต่งทรงผมหน้าตา และปรับบุคลิกภาพแค่เพียงเล็กน้อย รวมถึงการมีทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และสายตาที่มองโลกอย่างเข้าใจในฐานะผู้ผ่านโลกมามากกลับเป็นสิ่งสำคัญเสียยิ่งกว่า

เพราะไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน ทำงานอะไร หรืออายุเท่าไหร่ ทุกคนก็สามารถดูดีได้ในแบบของตัวเอง หากคุณส่องกระจกและชอบตัวเองในแบบนั้น ทัศนคติที่ดีจากภายในจะเปล่งประกายออกมาจากตัวคุณ และสิ่งเหล่านี้เองที่จะทำให้ทุกคนสามารถก้าวขาออกจากบ้านได้ด้วยความภาคภูมิใจ สมศักดิ์ศรี และยังกลับมาชอบชีวิตตัวเองได้เสียยิ่งกว่าที่เคยเป็น

วันนี้ เดอะนิวเกรย์และอาจอชีไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มคนที่สร้างแรงบันดาลใจเท่านั้นอีกต่อไปแล้ว แต่พวกเขาทำให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยทั่วโลก

เพราะวันนี้ตลาดผู้สูงวัยกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เราทุกคนกำลังจะกลายเป็นผู้สูงวัยในอีกไม่ช้า พวกเราอาจต้องการคนที่เป็นเหมือนคนต้นแบบของผู้สูงวัยที่เราอยากเป็น เพื่อให้เรามีแนวทาง และมั่นใจว่าจะยังภาคภูมิใจในตัวเองแม้จะอยู่ในวัยร่วงโรยเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีคุณค่าและความสุข

ปัจจุบัน เดอะนิวเกรย์และเหล่าหนุ่ม ๆ อาจอชีมีผู้ติดตามทางอินสตาแกรมและติ๊กต็อกแล้วเกือบ 4 แสนราย

พวกเขามีกลุ่มแฟนคลับเหนียวแน่นเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยได้อย่างเข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นั่นมีภาพของอาจอชีติดอยู่ทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า บิลบอร์ดบนตึกสูง หรือแม้แต่ป้ายรถประจำทาง ตอนนี้เหล่าอาจอชีกลายเป็นขวัญใจของทั้งคนสูงวัยด้วยกันไปจนถึงคนหนุ่มสาว แถมยังขึ้นแท่นเป็นแด๊ดดี้ของสาว ๆ น้อยใหญ่ทั่วโลกไปเป็นที่เรียบร้อย

เพราะอาจอชีและเดอะนิวเกรย์ตอกย้ำให้พวกเราเชื่อเสมอว่า ทุกคนสามารถดูดีได้ในช่วงวัยของตัวเอง และไม่ว่าคุณจะยิ่งสูงวัยเท่าไหร่ ร่องรอยจากประสบการณ์ของช่วงวัยมันจะยิ่งทำให้คุณเก๋าและคูลได้มากเท่านั้น!

“ท้ายที่สุด ผมคิดว่าเราต้องไม่ใช่แค่เป็นผู้สูงวัยที่ดูดี แต่เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดีด้วย ต้องเป็นตัวจริง เป็นของแท้ ผมเชื่อว่าเรามีหน้าที่แสดงให้ผู้คนเห็นว่า อะไรคือความหมายของคำว่าผู้สูงวัยที่เป็นของจริง” Jee Sung-eun หนึ่งในสมาชิกวัย 67 ปี กล่าวทิ้งท้าย

ไปติดตามลุกสุดคูลของเหล่าแด๊ดดี้และการเมกโอเวอร์ครั้งสำคัญให้ผู้สูงวัยดูดีได้ในแบบของตัวเองได้ที่ https://www.instagram.com/_thenewgrey/  และ https://www.tiktok.com/@thenewgrey_?lang=en

Credits

Author

  • มนุษย์ต่างวัย

    Authorพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสังคมสูงวัยในมุมที่สนุก สร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัย

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ