เมื่อลูกสาวทำ Resume สมัครงานให้คุณพ่อวัย 65 ปี

ถ้าบ้านของคุณมีคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ในวัยเกษียณ แต่พวกท่านยังมีไฟในตัวเหลืออยู่และยังอยากลองกลับไปทำงานอีกครั้ง ต้องอ่านเรื่องราวนี้!

มนุษย์ต่างวัยพาไปพบเรื่องราวน่ารัก ๆ ของสองพ่อลูกคู่หนึ่งที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนลองทำแบบนี้ให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังอยู่บ้านแบบเบื่อ ๆ ดูบ้าง

สองพ่อลูกคู่นี้คือ คุณจึ๊ง – สุทธินันท์ สิทธิพงษ์พร ลูกสาวที่มีอาชีพเป็นนักจัดการผลิตภัณฑ์อายุ 32 ปี ที่ชอบลองทำอะไรใหม่ ๆ และ คุณยัง – ยงนำ สิทธิพงษ์พร คุณพ่ออายุ 65 ปี ที่ผ่านประสบการณ์การทำงานมาแล้วมากมายทั้งการทำงานบริษัท เจ้าของกิจการ รวมถึงเปิดร้านอาหารเอง แต่ก็ยังมองว่าชีวิตที่กินเที่ยวไปเรื่อย ๆ หลังเกษียณไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิตเสมอไป ทั้งสองจึงร่วมมือกันทำ “RESUME” สมัครงานสำหรับคนสูงวัย ขึ้นมาหนึ่งชิ้นเพื่อให้คุณพ่อเอาไปใช้สมัครงานได้ ซึ่งหลังจากที่คุณจึ๊งโพสต์ “RESUME ของคุณพ่อ” ลงในกลุ่มหางานออนไลน์ ก็ทำให้มีหลายบริษัทติดต่อเข้ามา

เพราะเรามั่นใจว่าพ่อยังทำงานได้

“เราเป็นคนชอบศึกษา ทำความเข้าใจสิ่งรอบตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมถึงพ่อเราที่อายุมากขึ้นด้วย เคยอ่านหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ในนั้นจะเขียนว่าคนวัย 60 ขึ้นไปจะไม่คิดอะไรมาก ปล่อยวางทุกอย่าง เลิกนึกถึงความต้องการของตัวเอง แต่เราพบว่าพ่อเราไม่เหมือนที่หนังสือเขียนไว้เลย เพราะเขายังมีแพสชันที่จะทำหลาย ๆ อย่างอยู่เต็มที่ ทั้งการลองอะไรใหม่ ๆ ทำสิ่งที่มองว่าท้าทาย ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับคนวัยเขา” คุณจึ๊ง – สุทธินันท์ สิทธิพงษ์พร ลูกสาวเล่าถึงจุดเริ่มต้น”

“เมื่อพ่อมาขอให้เราช่วยหางานให้หน่อย เราก็เลยบอกเอาสิ เพราะเราก็เป็นคนชอบลองอะไรใหม่ ๆ เหมือนเขา เลยสนับสนุนเต็มที่ รวมกับเราเพิ่งดูหนังเรื่อง ‘INTERN’ ที่เล่าถึงคุณปู่วัย 70 ที่ไม่รู้จะอยู่ว่าง ๆ ไปทำไม เลยกลับไปเป็นพนักงานออฟฟิศในบริษัทที่มีคนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของ ทำให้เราเลยได้รับแรงบันดาลใจไปด้วย พอมั่นใจว่าพ่อเราทำได้เราก็ให้เขาเขียนประวัติการทำงานมา ส่วนหน้าตา RESUME เราออกแบบให้เอง”

“หลังจากทำงานมานาน แล้วเกษียณตัวเองตอนอายุ 60 ชีวิตผมก็หมดไปกับการพักผ่อนเยอะ อาศัยกินค่าเช่าจากที่ดินกับคอนโดที่ผมเป็นเจ้าของ เลยอยู่ได้โดยไม่ลำบากมาก แต่พอกินเที่ยวไปเรื่อย ๆ มันก็เบื่อเป็นธรรมดา จากของอร่อยก็กินไม่อร่อย จากเที่ยวสนุกก็เที่ยวไม่สนุกแล้ว ทีนี้ผมก็เลยหันมามองตัวเองว่านอกจากเงินเก็บกับเวลาที่เหลืออยู่ ผมมีอีกสิ่งหนึ่งนั่นคือประสบการณ์จากการทำงานในโลกธุรกิจที่หลากหลายในสมัยที่ผมกำลังสร้างตัว และถ้ามันสามารถเป็นประโยชน์ให้บริษัทบางแห่งได้ หรือช่วยแนะนำคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรู้จากคนรุ่นก่อนได้ ผมก็ยินดีมอบให้พวกเขาด้วยความเต็มใจ ยิ่งตอนนี้มีบริษัทจีนเกิดขึ้นในไทยเยอะ และผมก็พูดภาษาจีนได้ พอคิดแบบนี้ได้ผมก็เลยเกิดไฟอยากกลับไปทำงานในระบบอีกครับ แต่ติดที่เราใช้เครื่องไม้เครื่องมือสมัยนี้ไม่เป็น เลยขอให้ลูกสาวช่วยดูเรื่องวิธีการสมัครงานในสมัยนี้ให้” คุณพ่อยังเล่าเสริมถึงความตั้งใจของเขาในวัย 65 ปี”

การทำ RESUME ให้คุณพ่อในวัย 65 ปี คือความสนุกที่ได้ทบทวนชีวิตไปด้วยกัน

“การทำ RESUME ให้คุณพ่อแตกต่างจากทำแบบเด็กจบใหม่มากเลยค่ะ เพราะคุณพ่อมีประสบการณ์ให้เลือกเขียนเยอะมาก ถ้าเป็นของเด็กจบใหม่ จะเน้นพวกเกรดกับความสามารถสกิลต่าง ๆ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ให้เขียน แต่ของคุณพ่อคือมีแต่ประสบการณ์ให้เขียน ในขณะที่เรื่องเรียนคือแทบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าจบเอกอะไรมาปีไหน (หัวเราะ) กลายเป็นว่าได้ทบทวนชีวิตของพ่อเราไปด้วย ซึ่งความง่ายคือพอมีประสบการณ์เยอะ RESUME จะดูน่าสนใจด้วยตัวมันเอง แต่ความยากคือด้วยความที่คุณพ่อเองก็ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากจะทำอะไร ขอแค่กลับไปทำงานก็พอ เลยเลือกประสบการณ์เด่น ๆ มาชูโรงไม่ค่อยถูก”

“แต่เราก็ยังมองคุณพ่อว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่งทีเดียวสมัยทำงาน เราเลยต้องทำ RESUME ของพ่อด้วยการชูเรื่องความหลากหลายของประสบการณ์ของเขา ตอนนั้นทั้งพี่สาวกับแม่มองว่าจะทำไปทำไม อยู่เฉย ๆ ก็ดีแล้ว ส่วนเรามองว่าต้องสนุกและแปลกใหม่แน่ ๆ เพราะใคร ๆ ก็คงคิดว่าคนรุ่นนี้จะทำ RESUME สมัครงานไปเพื่ออะไร แต่เราจะทำให้พ่อเรามี RESUME เจ๋ง ๆ เอง”

“ตอนแรกผมบอกลูกสาวว่าทำสวยเกินไป จะให้ปรับแต่ลูกสาวบอกมันแค่สวยเฉย ๆ ที่เขียนนั่นผมเขียนหมดเลยนะ พอมานั่งดูก็เออจริงด้วย ก็ชมเขาอยู่ว่าเก่งนะ ส่งให้เพื่อน ๆ ผมดูก็ชมกันใหญ่ สมัยผมไม่เคยสัมภาษณ์งานเลย พอต้องมาส่ง RESUME มีคนโทรสัมภาษณ์ แต่งตัวไปสัมภาษณ์งานก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ที่ยากน่าจะเป็นเรื่องใช้วิดีโอคอลหรือส่งเมลมากกว่า ที่ผมก็ต้องให้ลูกสาวช่วยตลอด”

ดีใจที่สิ่งที่เราทำ จุดประกายให้ชีวิตคนอื่นได้

“เอาจริง ๆ ตอนแรกเราก็คิดอยู่ว่าเออสิ่งที่เราทำมันไม่มีใครเขาทำกัน แต่ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจขนาดนี้ จนเห็นคอมเมนต์เป็นหลักร้อยที่เข้ามาชื่นชมคุณพ่อ ถึงเพิ่งมารู้ตัวเหมือนกันค่ะว่าเออว่ะ มีคนมาคอมเมนต์ มีคนทักมาขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจ หลายคนที่เห็นเราทำก็เริ่มอยากทำ RESUME ให้พ่อแม่ตัวเองบ้าง และมีมาแนะนำงานให้คุณพ่อทำเยอะเลย ก็รู้สึกดีใจที่เรื่องทำเราทำเพราะนึกสนุกเฉย ๆ มันมีประโยชน์กับสังคมในทางอ้อม แต่จริง ๆ เราไม่ได้อยากจะให้เป็นแรงบันดาลใจให้ชาวสูงวัยแค่อย่างเดียว แต่อยากให้คนรุ่นใหม่เปิดรับแล้วก็ยื่นมือไปช่วยเหลือเรื่องอะไรแบบนี้กับคนรุ่นเก่าให้มากขึ้น และเราก็จะได้เห็นอะไรแบบนี้บ่อยขึ้น”

“รู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นคอมเมนต์เยอะ แล้วก็สนุกดีที่ได้ลองทำสิ่งที่คนสมัยนี้ทำ แต่งานส่วนใหญ่ที่ติดต่อเข้ามายังไม่ค่อยตรงกับตัวผมเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะจ้างผมไปทำงานปฏิบัติ งานแอดมิน ซึ่งถ้าผมตอบตกลงไปทำให้ คุณก็จะได้แค่ม้าแก่ ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเป็นงานที่ปรึกษาธุรกิจ โค้ชชิ่ง หรืองานตรวจสอบ ที่ผมเชื่อว่าเป็นผู้นำทางให้ได้ เพราะถึงจะเป็นม้าแก่ แต่ก็เป็นม้าที่มีประสบการณ์ ซึ่งผมก็ไม่ได้หวังให้เขามาจ้างให้เราทำ 5-10 ปี เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ขอแค่ได้ทำสัก 1-2 ปี หรือจ้างเป็นครั้ง ๆ ก็พอ เพราะรู้สมรรถนะตัวเองดี ยังไงก็มองว่าการกลับมาหางานในวัย 65 ปี ก็ถือเป็นเรื่องดี ๆ และสร้างสีสันให้ชีวิตผมได้มากกว่าที่คิด แต่ตอนนี้ยังไม่เจองานที่ใช่ติดต่อเข้ามา เลยขอดูอีกสักระยะหนึ่งไปก่อน คิดว่าต้องมีงานที่ใช่เข้ามาหาแน่นอน”

“ผมเห็นว่าหลายประเทศรวมถึงไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวแล้ว แต่ผมกลับมองว่าผู้สูงอายุมีโอกาสน้อยมาก ที่จะได้กลับเข้าไปทำงานในระบบ เพราะด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่ผมอยากให้พวกเขามองผู้สูงอายุด้วยสายตาใหม่ ข้อดีที่สุดของเราคือผ่านอะไรมาเยอะ มีความรอบคอบและความรับผิดชอบต่อหน้าที่ไม่แพ้คนรุ่นอื่น ถ้าให้พูดแบบตรงประเด็นเลยก็คือ ถึงผลผลิตที่เราทำได้จะไม่ได้เยอะมาก แต่ผู้สูงอายุยังสามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนสูง และผู้สูงอายุก็ควรทิ้งความเชื่อที่ว่าเขาต้องจ่ายเราสูงตามอายุเสมอไปได้แล้ว เพราะไม่ว่ายังไงม้าแก่ก็คงวิ่งสู้ม้าหนุ่มไม่ได้ แต่ในเรื่องประสบการณ์เรามีอยู่เต็มเปี่ยมไม่แพ้ใครแน่นอน”

ขุมทรัพย์ที่แท้จริงของคุณพ่อ คือประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทั้งชีวิต

“เรามองเห็นเสมอว่า คนวัยพ่อแม่เราเขามีขุมทรัพย์คือประสบการณ์ แต่หาที่ใช้ไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไรในชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งผู้ใหญ่ทุกคนอยากจะมอบความรู้ให้รุ่นลูกหลานอยู่แล้ว แต่คนรุ่นใหม่อาจมองว่าเป็นความรู้เก่า ๆ ที่ใช้ไม่ได้ในสมัยนี้ ซึ่งเราอยากบอกว่าทุกอย่างที่เขาสอนหรือแนะนำเรา เราต้องเป็นคนประเมินเองว่าอะไรที่ใช้ได้จริง และอะไรที่ใช้ไม่ได้ โดยอย่าเพิ่งไปปิดรับทั้งหมด ยิ่งสมัยนี้การทำงานกับคนที่อายุต่างกับเราคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วด้วย เลยอยากให้ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่กล้าหันมาทำงานกับคนต่างเจเนอเรชันมากขึ้น ทั้งคนรุ่นใหม่กล้าเข้าหาคนรุ่นเก่า คนรุ่นเก่ากล้าเข้าหาคนรุ่นใหม่”

“เราอยากให้พ่อทำสิ่งที่อยากทำ ยังไงก็ขอให้เขาได้สนุกกับชีวิตให้เต็มที่ก็พอ ซึ่งเราก็อยากเชิญชวนคนวัยเดียวกับพ่อเราที่ยังมีแพสชันในการทํางาน ให้กล้าทำสิ่งที่อยากทำจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความฝัน การทำงาน หรืออะไรก็ตาม โดยอย่าไปกลัวสายตาจากคนรุ่นอื่น และถึงแม้จะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ไม่เป็นไร หรือต่อให้ลองทำแล้วไม่เวิร์คก็ไม่มีอะไรน่าอาย เพราะใช้ชีวิตมาขนาดนี้แล้ว มันไม่เสียหายอะไรหากจะลองหาสีสันให้ชีวิตจากการทำงานอีกสักครั้ง”

Credits

Author

  • นิติภัค วรนิติโกศล

    Authorปรกติไม่ชอบความวุ่นวาย เวลาว่างชอบอ่านหนังสือกับเล่นเกม ความฝันสูงสุดของชีวิตคือการเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ