พ่อแม่ป่วย คนเป็นลูกก็อยากดูแลให้ดีที่สุดอย่างที่พ่อแม่ควรจะได้รับ แต่พอเวลาผ่านไป มันกลับหนักทั้งกายหนักทั้งใจ รู้ตัวอีกทีอาจจะ “เผลอหมดไฟ” ไปแล้ว
ใครเป็นบ้าง ? ดูแลพ่อแม่จนลืมดูแลตัวเอง วันนี้มนุษย์ต่างวัยอยากชวนคนเจนลูกมาสังเกต 5 สัญญาณ “หมดไฟ” ที่มักมาเงียบ ๆ ในคนที่ดูแลพ่อแม่ เราจะได้รีบชาร์จพลังตัวเองทัน ก่อนจะเผลอพังระหว่างทาง
1. เหนื่อยทั้งกายและใจเพราะตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินไป
คุณอาจตั้งความหวังไว้ว่าอยากจะให้พ่อแม่หายขาดจากโรคที่เป็นอยู่ ทั้งๆ ที่บางโรคไม่สามารถรักษาให้หายได้ การที่ต้องเผชิญกับความจริงว่าอาการของท่านไม่ได้ดีขึ้นเท่าที่หวังไว้ ทำให้คุณรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ และเหนื่อยล้าไปกับการดูแล
2. ทุกข์ใจเพราะเหมือนต้องแบกรับภาระไว้คนเดียว
หลายครั้งที่ผู้ดูแลหลักต้องแบกรับภาระทั้งหมดไว้คนเดียว ทั้งเรื่องการดูแล การจัดสรรเวลา และค่าใช้จ่าย เมื่อขาดการสนับสนุนจากสมาชิกในครอบครัวทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจ และต้องทนกับความกดดันนี้ตามลำพัง
3. ชีวิตส่วนตัวคืออะไร ? ลืมไปแล้วว่าเคยมีเวลาให้ตัวเอง
การดูแลผู้สูงอายุหรือคนป่วยในบ้านอาจทำให้คุณต้องเสียสละชีวิตส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการลาออกจากงานที่รัก หรือต้องทิ้งกิจกรรมที่เคยชอบไป ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณค่าในตัวเองลดลง และรู้สึกชีวิตไม่มีความสุข
4. เชื่อว่าต้อง “ดูแลเองทั้งหมด”
ผู้ดูแลหลายคนรู้สึกว่าการดูแลเป็นหน้าที่ของตนเองเพียงคนเดียว และเชื่อว่าไม่มีใครจะสามารถดูแลท่านได้ดีเท่ากับตัวเอง ทำให้ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคนภายนอก หรือไม่กล้าที่จะบอกความเหน็ดเหนื่อยของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ ทำให้คุณยิ่งเหนื่อยและรู้สึกหนักใจมากขึ้น
5. มองเห็นแต่เรื่องเจ็บป่วยจนลืมช่วงเวลาแห่งความสุข
เมื่อต้องมุ่งแต่เรื่องการดูแลและอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วย ทำให้คุณมองข้ามความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันไป เช่น ช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้พูดคุยกับพ่อแม่ หรือความรู้สึกที่ได้เห็นท่านยิ้มได้ ซึ่งสิ่งเล็กๆ เหล่านี้เป็นกำลังใจสำคัญที่ช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
ถ้าคุณกำลังเผชิญกับ 5 สัญญาณเตือนที่ว่านี้ คุณอาจจะกำลัง “หมดไฟแบบเงียบ ๆ”
แล้วทางออกคืออะไร?
สิ่งที่ควรทบทวนก็คือการเป็นลูกที่ดี ไม่ได้แปลว่าต้องแบกรับทุกอย่างคนเดียว
ความเข้มแข็งไม่ได้หมายความว่าต้องไม่ร้องไห้หรือมีความสุขตลอดเวลา เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เราก็ยังคงต้องก้าวต่อไป รู้จักฟังสัญญาณตัวเอง ให้ความสำคัญของเวลาm“พัก” ให้เป็นภารกิจหลักไม่ต่างจากการให้พ่อแม่กินยาตรงเวลา
เพราะการชาร์จพลังคือการใส่ใจตัวเอง เพื่อที่เราจะได้ดูแลคนที่เรารักได้อย่างเต็มใจ…ไม่ใช่เพราะฝืน มีใครกำลังรับบทดูแลคนป่วยที่บ้านอยู่บ้าง แต่ละคนมีวิธีดูแลใจของตัวเองยังไงมาแชร์กันได้นะครับ
ดูเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ดูแลพ่อแม่ป่วยจนหมดไฟ จะดูแลใจตัวเองยังไงดี” ได้ในรายการบุพการีที่เคารพ