Sao Home Matcha @ราชบุรี จากพื้นที่นั่งเล่นของเจนฯ B สู่มัทฉะคาเฟ่ที่เจนฯ Z ต้องเช็กอิน

ณ ตลาดเก่าโคยกี๊ จ.ราชบุรี มีร้านมัทฉะเล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่น ที่มีมือชงเป็นคุณลุง คุณป้า วัย 70 คอยชงมัทฉะต้อนรับลูกค้าผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นและเป็นมิตร

ที่แห่งนี้ คือ ร้าน Sao Home Matcha ของ ‘ลุงเสาว์’ เสาว์ชัย เหลืองชูฤทธิ์ วัย 70 ปี และ ‘ป้าไก่’ วชิราวลัย เหลืองชูฤทธิ์ อายุ 68 ปี คู่รักวัยเกษียณที่เปลี่ยนพื้นที่เล็ก ๆ ที่เคยเป็นร้านรองเท้าเก่าแก่ของครอบครัว ให้กลายเป็นพื้นที่นั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ และสนทนาแลกเปลี่ยนกัน ของกลุ่มเพื่อน ๆ และลูกศิษย์ที่ออกกำลังกายด้วยกัน

Sao Home Matcha @ราชบุรี จากพื้นที่นั่งเล่นของเจนฯ B สู่มัทฉะคาเฟ่ที่เจนฯ Z ต้องเช็กอิน

พอทำไปสักระยะ เพื่อน ๆ ก็เกิดความเกรงใจ ที่มาใช้สถานที่นั่งกิน นั่งเล่น แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอยู่ตลอด จึงบอกให้ลุงเสาว์ ป้าไก่เปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นร้านขายมัทฉะแบบจริงจัง

จากความตั้งใจที่จะชงไป คุยไป ขายเอาสังคมและความสุข แค่สักวันละ 10 แก้ว ทุกวันนี้ลุงเสาว์กับป้าไก่ต้องตีมัทฉะกันจนแทบไม่ได้พัก เพราะมีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปหาลุงกับป้าและชิมมัทฉะกันแบบไม่ขาดสาย ทั้งในวันธรรมดาและวันหยุด

ส่วนหนึ่งเพราะกระแสความนิยมของ ‘มัทฉะ’ หรือ ‘เพียวมัทฉะ’ ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จากเครื่องดื่มที่เมื่อก่อนหลายคนเบือนหน้าหนี แต่ทุกวันนี้ด้วยตัวเลือกของกลิ่น รส สายพันธุ์ที่หลากหลาย และประโยชน์มากมายที่ได้จากการดื่ม ทำให้มัทฉะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของสายสุขภาพ และเครื่องดื่มแก้วโปรดของใครหลายคน

กว่าจะเป็น Sao Home Matcha 

“ที่ตรงนี้เป็นร้านเก่าแก่ อยู่มา 100 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่สมัยพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เมื่อก่อนลุงขายรองเท้า เพิ่งมาหยุดไปตอนช่วงโควิด-19 หลังจากนั้นก็เลยทำมุมตรงนี้ให้เป็นที่นั่งเล่น มีคนในชุมชน คนในตลาดมาแวะนั่งกินกัน ใครจะกินอะไรเราก็ทำให้ ทำแบบนั้นอยู่ประมาณ 2 ปี คนที่มานั่งเขาก็เกรงใจ เลยบอกว่าให้เราทำขายไปเลย

“ลุงอยากจะทำร้านอยู่แล้ว เพราะเคยมีความฝันว่า อยากมีร้านเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ตอนที่เพื่อน ๆ สนับสนุนให้เราเปิดร้าน ก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองว่าเราจะทำได้หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้เราแค่ชงดื่มกันเองกับเพื่อน ๆ ก็เลยตัดสินใจไปเข้าเวิร์กช็อปดูสักครั้ง ซึ่งพอไปเรียนจริง ๆ ก็เห็นว่าวิธีการ ความรู้ที่เราไปเรียน มันคล้ายกับที่เราทำอยู่แล้ว ก็เลยมีความมั่นใจมากขึ้น”

ป้าไก่เล่าย้อนไปถึงความรู้สึกก่อนเริ่มต้นทำร้านอย่างจริงจังว่า “เมื่อก่อนป้ารับราชการ ทำงานเขตพื้นที่การศึกษา แต่เออร์ลี่รีไทร์ออกมาตอนอายุ 54 เพราะมีอาการออฟฟิศซินโดรม ตอนนั้นป้าไม่มั่นใจในตัวเองเลย เพราะเราทำอาชีพรับราชการมาตลอด ไม่เคยค้าขาย ความรู้สึกแรก คือ ท้อและกังวลว่าจะทำได้ไหม แต่พอเห็นลูก เห็นสามีไปเวิร์กช็อป เราซึ่งเป็นคนในครอบครัว เป็นทีม เห็นทุกคนทำ ทุกคนเหนื่อย เราก็ต้องทำให้ได้

“ป้าพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมัทฉะให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือลุงเขาได้ ลุงเขาเป็นผู้นำที่ดี เมื่อเขามั่นใจ ป้าก็มีความมั่นใจมากขึ้น”

“ตอนนั้นลุงกับป้าไปดู ไปชิมกันทุกที่เลย มีอยู่ครั้งหนึ่งไปญี่ปุ่น 8 วัน แต่ไม่ได้ไปเรียนนะ แค่ไปเที่ยว แล้วถือโอกาสไปชิมตามเมืองต่าง ๆ ที่เราผ่าน ที่เราไปญี่ปุ่น เพราะเราต้องการรู้ว่าสิ่งที่เรารู้มากับสิ่งที่เขาทำกันในประเทศที่เป็นต้นตำรับมัทฉะมันคล้ายกันไหม พอไปชิมเราก็เจอว่า คนญี่ปุ่นเขาจะดื่มมัทฉะรสชาติอ่อน ไม่เข้มเหมือนของเรา อาจเป็นเพราะว่าที่นั่นเขาดื่มบ่อย ดื่มกันแทนการดื่มน้ำ” ลุงเสาว์เล่าเสริม

Sao Home Matcha @ราชบุรี จากพื้นที่นั่งเล่นของเจนฯ B สู่มัทฉะคาเฟ่ที่เจนฯ Z ต้องเช็กอิน

‘มัทฉะ’ เปลี่ยนชีวิต

“จริง ๆ ป้าป่วยหลายโรค ล่าสุดก็เป็นไขมันพอกตับ น้ำตาลสูงสะสม จนหมอบอกว่าถ้าเกินกว่านี้อีกหน่อยก็จะเป็นเบาหวานแล้ว ตอนนั้นป้าเลยงดทั้งกาแฟ โอวัลติน โกโก้ งดทุกอย่างไปเลย แต่พอมาคุยกับลูก เขาก็แนะนำว่าให้ดื่มมัทฉะ แต่ป้าไม่ชอบดื่มชา เพราะป้าเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลองเสี่ยงดู ปรากฏว่า 2 อาทิตย์แรกที่ดื่ม นอนไม่หลับเลย ต้องใช้ยานอนหลับช่วยทุกวัน

“พออาทิตย์ที่ 3 ร่างกายปรับตัวได้ ง่วงตามเวลาปกติ ตอนเช็กค่าเลือดปรากฏว่าปริมาณน้ำตาลสะสมลดลง จากนั้นลุงกับป้าก็เลยดื่มมัทฉะวันละ 1 แก้วหลังอาหารเช้า แต่จะดื่มเป็นเคลียร์มัทฉะที่ตีกับน้ำ ไม่เติมนม พอดื่มมัทฉะเป็นประจำ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ระบบขับถ่ายก็ดีขึ้น ตอนไปเจอหมอ หมอก็บอกว่าดื่มได้ ไม่ได้ห้าม”

ลุงเสาว์เสริมว่า “คนไทยติดหวานมาก แต่ความหวานมันเป็นยาพิษ แล้วมันก็ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เวลาลูกค้ามาสั่งมัทฉะที่ร้าน เราจะพยายามให้ลูกค้าลองเลือกดื่มเคลียร์มัทฉะ แล้วบอกลูกค้าว่าถ้าดื่มไม่ได้จริง ๆ เราจะใส่ไซรัปให้ ซึ่งพอเขาได้ลอง เราไปถามดู เขาก็บอกว่าดื่มได้”

ชาที่ใช่ เลือกได้ตามที่ชอบ 

“มัทฉะเป็นชาชั้นดีที่นิยมใช้ในญี่ปุ่น ผลิตด้วยวิธีการบดยอดชาอย่างพิถีพิถัน เวลาดื่มจะมีความรู้สึกสดชื่น ชาที่ร้านใช้ เราคัดเลือกมาแล้วอย่างดี เป็นชาเกรดพิธีการทั้งหมด มีหลายตัวให้เลือกดื่ม ตัวแรก คือ ‘มิโดริ’ เป็นชาสายพันธุ์ที่ดื่มง่าย มีกลิ่นถั่ว หอม และมีรสหวานในตัวของมันเอง ตัวต่อมา คือ ‘โอคุมิโดริ’ มีกลิ่นสาหร่าย รสฝาดนิด ๆ

“ตัวที่สาม คือ ‘ยาบูกิตะ’ เป็นชาสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น มีรสขม เหมาะสำหรับทำเป็นเมนูผสมผลไม้ มะพร้าว หรือมัทฉะลาเต้ ส่วนชาที่ดื่มง่ายที่สุด คนไม่ใช่สายมัทฉะก็สามารถดื่มได้ คือ ‘เกนไม’ ตัวนี้จะมีกลิ่นข้าวคั่วผสมกับมัทฉะ

ป้าไก่เล่าถึงกระบวนการชงว่า “เวลาตีมัทฉะ เราใช้เวลาตีนาน เพราะต้องตีให้ละเอียด ไม่ให้เหลือเป็นเม็ดติดคอได้ ถ้าป้าเป็นคนตี ป้าจะตีอย่างน้อยแก้วละ 120 ครั้ง เพราะฉะนั้นกว่าจะได้แต่ละแก้ว มันถึงช้า เพราะเราต้องใช้เวลาทำ บางทีก็เกรงใจลูกค้าที่มารอ”

ลุงเสาว์เล่าถึงเมนูแนะนำที่ร้านว่า “ลูกค้าที่ร้านจะสั่งเมนูหลากหลาย แต่เมนูที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของเรา คือ มอลต์ มัทฉะ หรือเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์โรยด้วยผงมัทฉะ แต่เมนูที่ลุงอยากแนะนำ คือ ‘เคลียร์มัทฉะ’ เพราะไหน ๆ มาถึงร้านมัทฉะแล้ว ก็ดื่มมัทฉะเพียว ๆ ไปเลยดีกว่า”

Sao Home Matcha @ราชบุรี จากพื้นที่นั่งเล่นของเจนฯ B สู่มัทฉะคาเฟ่ที่เจนฯ Z ต้องเช็กอิน

พื้นที่แบ่งปันความสุข

“ไม่นึกเลยว่าคนรักมัทฉะจะเยอะขนาดนี้ ไม่คิดว่าลูกค้าจะแน่นทุกวัน แม้แต่วันธรรมดาก็แน่น เราคิดว่าเด็กวัยรุ่นเขาจะไปทางสายกาแฟมากกว่า แต่พอเปิดมาแล้วมันผิดคาดมาก คนรักษาสุขภาพ และต้องการดื่มมัทฉะกันมากขึ้น แต่ก่อนป้ากับลุงจะนั่ง ๆ นอน ๆ คุยกัน มีความสุข แต่ชีวิตตอนนี้มันเปลี่ยนไปเลย

“เวลาตีมัทฉะแต่ละแก้ว เราก็จะคิดแล้วว่ามันอร่อยไหมนะ ดื่มแล้วเขาจะมีความสุขไหม เวลาลูกค้ามาดื่มชา ก็เหมือนลูกเหมือนหลานกลับมาเยี่ยมบ้าน เราไม่ได้จะเอาอะไรจากเขา เรามีความสุขกับการได้ให้มากกว่า บางทีลูกค้าเดินทางมาจากที่ไกล ๆ แต่เราเก็บของ ปิดครัว ล้างเครื่องมือแล้ว เราก็ทำให้เขาใหม่” ป้าไก่เล่าถึงกระแสตอบรับจากลูกค้า

ลุงเสาว์เล่าย้ำถึงจุดยืนและความตั้งใจในการทำร้านว่า “เราเป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่โตอะไร รับลูกค้าได้ประมาณครั้งละ 10 กว่าคน เมื่อก่อนคิดว่าขายได้วันละ 10 กว่าแก้วก็พอแล้ว มีความสุขแล้ว แค่พอมีคนนั้นคนนี้แวะมาคุย แต่ตอนนี้มันเกินเป้าหมายของเราไปเยอะ

Sao Home Matcha @ราชบุรี จากพื้นที่นั่งเล่นของเจนฯ B สู่มัทฉะคาเฟ่ที่เจนฯ Z ต้องเช็กอิน

“จริง ๆ ร้านมัทฉะไม่ใช่อาชีพของลุงกับป้านะ อายุขนาดนี้ คงไม่ได้หวังทำธุรกิจให้ร่ำรวยแล้ว ลุงแค่ทำบ้านมัทฉะเล็ก ๆ เพื่อเป็นการแบ่งปันกัน เรามีโต๊ะชงเล็ก ๆ เป็นเคาน์เตอร์ เพื่อให้ลูกค้ามายืนดูหรือสอบถามได้ บางทีลูกค้าทำดื่มเองที่บ้าน เขาก็ให้ลุงช่วยสอนให้ ลุงก็สอนให้เท่าที่พอมีความรู้ บางทีคนไม่เยอะ ลุงก็ให้เขามาลองตีเองเลย

“ลูกเขาก็เคยถามนะว่าพ่อกับแม่เหนื่อยไหม อยากเลิกไหม แต่เราก็บอกเขาว่า สิ่งที่เราทำมันไม่ใช่การค้า แต่เป็นความฝันที่พ่ออยากจะทำ เราขอแค่ได้ทำเท่านั้นเอง อายุขนาดนี้แล้ว เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ต่อให้ทำแล้วมันขาดทุน มันไม่สำเร็จ มันก็ไม่ได้ถึงกับล้มละลาย สิ่งนี้มันเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งว่าสิ่งที่เราเคยฝันเอาไว้ มันกลายเป็นจริงแล้ว”

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ sao.home.matcha

Credits

Authors

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ