‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

“เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ได้ชอบกินขนมไทยนะ แต่ว่ามันคือสิ่งที่เราเห็นมาตลอด เพราะที่บ้านไม่ซื้ออาหาร หรือขนมที่เขาขายกันข้างนอก แต่เขาทำกินกันเอง เราจะได้ยินแม่ น้า ยายคุยกันอยู่ตลอดว่า ‘อันนี้ไม้น่าใส่แป้งเลย ไม่อร่อย’ หรือ ‘อันนี้เราทำเองก็ได้ ไม่ต้องไปซื้อ’ จนมันกลายเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในตัวเรา

“พี่ว่าการทำอาหารกับการทำหนังสือมันมีความคล้ายกัน มันคือเรื่องของการที่เรามีวัตถุดิบอยู่ในมือ แล้วจะหยิบมันมาปรุงอย่างไร ช่วงที่จะเลิกทำหนังสือ ก็เลยมาคิดว่าทำอะไรดีที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนเยอะ และจบได้ด้วยตัวเอง การทำขนมมันคือความทรงจำระหว่างเรากับแม่สุดท้ายพี่ก็เลยมาจบที่การทำขนมไทย”

หากใครอายุสัก 45 ปีขึ้นไป และชอบอ่านหนังสือไกด์บุ๊ก หรือหนังสือเกี่ยวกับการเดินทาง ท่องเที่ยว น่าจะเคยได้ยินหรือเห็นชื่อ ‘พาฝัน ศุภวานิช’ อยู่ตามหน้าเครดิตหนังสือหลาย ๆ เล่ม เพราะเธอคือบรรณาธิการของสำนักพิมพ์วงกลม สำนักพิมพ์ที่เติบโตและมีชื่อในยุคสมัยหนึ่งของสังคมไทย

‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

ในปีนี้พาฝัน หรือ ‘พี่นวล’ ในวัยย่าง 61 ปี เป็นเจ้าของ ‘หวานนวล’ คาเฟ่ขนมไทยที่เปิดให้คนสั่งผ่านช่องทางออนไลน์และเปิดให้คนเข้าไปนั่งกินที่ร้านเป็นบางครั้ง รวมทั้งเป็นสตูดิโอที่เปิดคลาสสอนทำอาหารและขนมให้กับคนที่สนใจได้มาเรียนทั้งแบบกลุ่มย่อยและไพรเวท จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ที่มีคนหลากหลายวัย หลากหลายอาชีพมารวมตัวกันเพื่อทำขนม ทำอาหาร พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ จัดกิจกรรมเล็ก ๆ หรือเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผิดไปจากความตั้งใจแรกในการตัดสินใจเปิด ‘หวานนวล’ ขึ้นมา

“ตอนแรกพี่ตั้งใจว่าอยากให้ที่ตรงนี้เป็นที่ที่ให้คนมานั่งกินอาหารกลางวันแบบสงบ ๆ เพราะหวานนวลตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง มีคนทำงานค่อนข้างเยอะ อยากให้เขามาผูกปิ่นโตกับเรา รับจำนวนจำกัดแค่ประมาณ 10 คน ทำเป็นพื้นที่ให้คนมานั่งคุยกัน แชร์กัน แต่ก็ยังไม่ได้ทำ แต่ตอนนี้สิ่งที่พี่ทำคือเปิดบ้านให้คนเข้ามานั่งกินข้าว กินขนมเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนมากจะเป็นวันเสาร์ของสัปดาห์ที่พี่ว่าง ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งมานั่งกินที่นี่ประจำ มานั่งคุยกัน พี่ก็จะคอยเสิร์ฟอยู่ตรงนั้น พี่รู้สึกว่ามันสนุกดี หลายคนก็ได้เพื่อนใหม่กลับไป”

‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

หวานกำลังพอดี 

“พี่เริ่มทำหวานนวลสตูดิโอทำมาตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีก่อนโควิด-19 แต่ก็ทำไม่เสร็จสักที พอจะเปิดร้านโควิด-19 ก็มาพอดี แต่โชคดีมากที่ช่วงนั้นขายแบบออนไลน์ได้ ช่วงนั้นคนมีเวลาว่าง แต่ออกจากบ้านไม่ได้ เขาก็เลยสั่งขนมไปกิน หวานนวลก็เลยเริ่มเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ตอนนั้น”

แม้หวานนวลจะเกิดจากความชื่นชอบ ความผูกพัน และความทรงจำในวัยเด็ก แต่สิ่งที่ทำให้ร้านขนมไทยเล็ก ๆ แห่งนี้มั่นคง และเป็นรายได้ในการดูแลชีวิตพี่นวลมาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็คือเรื่องของรสชาติและคุณภาพมากกว่านั้นขนมของพี่นวลยังซ่อนความหมายหลาย ๆ อย่างที่คนกินอาจไม่เคยรู้มาก่อนด้วย

“เวลาคนกินขนมของเรา เขาก็จะฟีดแบ็กกลับมาว่ามันอร่อย รสชาติมันเหมือนกับที่เคยกินตอนเด็ก ๆ มีคนมาพูดแบบนี้กับเราเยอะมาก เราก็เลยรู้สึกว่าขนมมันเป็นสิ่งที่พาความทรงจำกลับมา แต่จะว่าไปแล้วจริง ๆ ขนมไทยมันก็ไม่ค่อยดีหรอก เรารู้กันดีว่าน้ำตาลมันคือสิ่งที่อันตรายมาก ซึ่งส่วนประกอบหลักของขนมไทยก็มีแต่แป้ง น้ำตาล มะพร้าว เราก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนกินแล้วไม่รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังกินยาพิษ

“เราก็เลยไม่เปิดร้านทุกวัน ทำชิ้นไม่ใหญ่มาก และสิ่งสำคัญที่สุด คือ เลือกใช้วัตถุดิบที่ดี อย่างน้ำตาลทรายขาว เราก็จะพยายามเลี่ยง พยายามไม่ใช้ แล้วมาใช้น้ำตาลมะพร้าวแทน ซึ่งมาจากธรรมชาติ รสชาติหวาน หอม ส่วนแป้ง กะทิ ถ้าเป็นไปได้ก็จะทำเองทั้งหมด เพราะจะทำให้เรารู้ที่มาของวัตถุดิบ

“จริง ๆ เรากินขนมหวานได้ แต่กินแล้วต้องใช้พลังงานให้หมด กินแล้วต้องออกกำลังกายด้วย พี่เลยพยายามให้คนมารับขนมก่อนบ่ายโมง เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกินขนมเย็นหรือค่ำจนเกินไป แต่คนก็จะชอบซื้อไปเก็บไว้ เราก็เลยพยายามสื่อสารว่าขนมมันจะอร่อยเวลาที่เกินตอนทำเสร็จใหม่ ๆ แต่จริง ๆ เป้าหมายในใจของเราคืออยากให้คนกินขนมในตอนกลางวัน บ่ายโมงนี่ควรกินไดแล้ว”

‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

ดูแลชีวิตได้พอดี 

“รายได้หลักตอนนี้ก็มาจากหวานนวลนี่แหละ แต่มันไม่ได้แน่นอน เพราะเราไม่ได้เปิดร้านตลอด เพื่อน ๆ เขาก็จะพูดกันเล่น ๆ ว่า ถ้าช่วงไหนเราร้อนเงิน เราก็จะมาเปิดร้าน แต่ที่พี่เปิดร้านเพราะพี่ต้องการรักษาความเป็นคอมมูนิตี้ที่เรามีให้มันสม่ำเสมอ

“การมาเจอกันมันสร้างแรงบันดาลใจว่าการทำอาหารมันไม่ยาก มีแค่กระทะใบเดียว ก็ต้ม ผัด แกง ทอดได้หมดแล้ว คนที่มาเข้าคลาสกับเรามีหลากหลายแบบ คนที่อยากเปิดร้าน เขาก็ไปเปิดร้าน คนที่อยากได้สูตรไปทำให้คนที่บ้านกิน เขาก็เอากลับไปทำแล้วมาเล่าให้ฟังว่าลูกกินแล้วชมว่าอร่อย บางคนก็มาเรียนเพื่อผ่อนคลายความเครียด ความเหนื่อยจากวันทำงาน เพราะเขารู้สึกเหมือนที่ตรงนี้เป็นที่ที่ช่วยบำบัดเขา

“บางคนก็มาเรียนเพราะอยากรู้ บางคนก็สนุกที่ได้ลงมือทำ แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือ ทุกคนที่มาเรียนกับเรา สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกัน มีมิตรภาพดี ๆ ให้กัน เหมือนเรามาทำอาหารกับเพื่อน กับรุ่นพี่ มีเรื่องอะไรก็มาเล่าให้กันฟัง บางคนรู้ว่าเราจัดทริปเขาก็ไปเที่ยวกับเรา บางคนก็ส่งแม่ไปเที่ยวกับเรา มันกลายเป็นอีกสังคมหนึ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่ร้านหรือธุรกิจ แต่มันคือคอมมูนิตี้

“พี่ว่าการทำหวานนวลมันคือการใช้ชีวิต พี่ไม่ได้วางแผนไว้แต่แรกว่าจะเกษียณแบบนี้ เราแค่ทำสิ่งที่เราชอบก่อน แล้วมันก็ดึงดูดคนที่ชอบเหมือนกันเข้ามา พี่ค้นหาสิ่งที่ชอบและพยายามทำให้มันเป็นอาชีพมาตั้งแต่ทำงานแล้ว”

‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

(จังหวะ)ชีวิตที่กำลังพอดี 

นอกจากทำหวานนวลสตูดิโอพี่นวลยังเป็นคนจัดทริปพาเพื่อน ๆ หรือคนในคอมมูนิตี้ไปเที่ยวด้วย หลายคนอยากไปเที่ยวกับพี่นวลเป็นพิเศษ เพราะรู้ดีว่าทริปนั้นจะมีคนทำอาหาร หรือเลือกร้านอร่อยให้

“เรื่องจัดทริปพาคนไปเที่ยว มันเริ่มมาจากการที่เราแบ็กแพ็กไปเที่ยวเองก่อน พอคนอื่นเห็น เขาก็บอกให้พาไปบ้าง การพาคนไปเที่ยวมันก็มาจากการที่เราทำไกด์บุ๊ก แล้วเราก็ได้ไปสำรวจหลาย ๆ ที่ เรารู้สึกว่ามีข้อมูลเยอะมากที่คงใส่ลงไปในหนังสือไม่ได้ทั้งหมด มันมีอีกหลายจุดที่เราอยากให้คนรู้จัก ก็เลยคิดว่าไหน ๆ ก็ทำไกด์บุ๊กแล้วก็เลยทำทริปไปด้วยเลย

“เวลาจัดทริปพี่จะคิดว่าทำอย่างไรให้คนที่ไปเที่ยวกับเรา เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนในบ้านเมืองที่เราไปเที่ยว เข้าใจเรื่องอาหารการกิน ศิลปะ พร้อมกับได้สัมผัสประวัติศาสตร์ หรือความเชื่อมโยงทางสังคมในท้องถิ่นนั้น ๆ ถ้ามีโอกาส เราจะพาคนไปลองทำอาหาร ไปทำงานคราฟต์กับคนในท้องถิ่นเลย เราจะไม่ได้แค่พาเขาไปยืนมองคนอื่นทำ

‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

“พี่คิดว่าเราก็คงใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะอิ่มตัว พี่ไม่ได้แผนสำรองให้ชีวิตนะ มันแค่มีสิ่งที่ผุดขึ้นในหัวอยู่ตลอด อย่างตอนไปเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ พี่ก็รู้สึกว่าเมืองมันน่ารักดี ก็เลยคิดว่าปีหน้าจะไปเปิดป๊อบอัปขายขนมที่นั่นสัก 2 เดือน พี่มีเพื่อนอยู่นิวยอร์ก บางทีก็คุยกับเพื่อนว่าเราไปเปิดป๊อปอัปที่นิวยอร์กดีไหม เพราะพี่รู้สึกว่าการทำขนม เราไปทำที่ไหนก็ได้

“พี่เป็นคนชอบทำอะไรสนุก ๆ มีสิ่งที่อยากทำอยู่ตลอดเวลา เพราะพี่ยังอยากเป็นคนที่กระฉับกระเฉงอยู่ตลอด พี่ไม่อยากเป็นมนุษย์ป้า พี่ยังสนุกกับการคุยกับคนเจนฯ Z  แล้วหาเรื่องราวมาเชื่อมกับเขาได้ การที่เราเป็นแบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกว่าเรายังไม่แก่”

สุขทุกข์ที่พอดี 

เมื่อเห็นพี่นวลยังคงสนุกกับการเดินทาง ท่องเที่ยว มีโปรเจกต์ใหม่ ๆ และมีกิจกรรมให้ตัวเองทำอยู่ตลอด เราก็เลยถามว่าแล้วเวลาที่ชีวิตพี่นวลต้องเจอกับ ‘ความทุกข์’ พี่นวลรับมือหรือจัดการกับมันอย่างไรบ้าง

“ทุกคนมีความทุกข์ มีปัญหา อยู่ที่ว่าเราจะอยู่กับมันอย่างไร เราต้องรู้ว่าส่วนหนึ่งของความทุกข์มันก็เกิดขึ้นจากตัวเรา ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหา เราจะไม่จมอยู่กับมันจนหมดพลัง แล้วค่อยมาดูว่าเราจะแก้มันอย่างไร

“ความโชคดีอย่างหนึ่งของเรา คือทุกวันนี้เราไม่ต้องดูแลใครแล้ว นอกจากดูแลสุขภาพของตัวเอง เราก็เลยค่อนข้างมีเวลา ใครชวนไปเที่ยวที่ไหน หรือให้สอนทำอะไร ถ้าเวลาตรงกัน เราก็จะทำให้ หรือบางครั้งถ้าน้อง ๆ ที่เชียงดาวอยากให้ไปช่วยทำอะไร พี่ก็จะไป ไปทำงานอาสาสมัครอยู่ที่นั่น เพื่อให้คนที่เชียงดาวได้มีโอกาสเหมือนกับคนในส่วนกลาง ที่นั่นมีเพื่อน อากาศดี และเราก็ได้เป็นกำลังใจให้คนรุ่นใหม่ในการทำงานเพื่อสังคมด้วย

‘หวานนวล’ สตูดิโอ คาเฟ่ขนมไทยที่อยากให้คนกินหวานแต่พอดี

“ความสุขในชีวิตตอนนี้ก็คือเรายังมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ล้มหมอนนอนเสื่อ มีเพื่อนและกัลยาณมิตรที่ดีในชีวิต เป็นเหมือนครอบครัวที่ใหญ่มากสำหรับเรา ทุกวันนี้สิ่งที่พี่ชอบที่สุด ก็คือการทำขนม ทำอาหารอยู่หน้าเตานี่แหละ มันทำให้พี่ไม่ฟุ้งซ่าน เป็นสิ่งที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข

“สิ่งที่พี่อยากให้เกิดขึ้นคือการสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำอาหารกินเอง ลองมาเรียนรู้แล้วจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก พี่คิดว่าการทำอาหารมันทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง ตอนที่เราทำเวิร์กช็อป เราก็อยากให้คนได้มีโมเมนต์แบบนั้น”

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากลองไปชิมขนม หรือขอแบ่งปันเคล็ดลับวิชากับพี่นวลสักครั้ง อยู่ ๆ จะเดินไปที่ร้านเลยไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกว่าพี่นวลไม่ได้เปิดร้านทุกวัน ดังนั้นก่อนไปให้เช็ก หรือทักเข้าไปก่อนล่วงหน้า ซึ่งวันเปิดปิดร้าน และเมนูขนมหรืออาหารที่เปิดให้สั่ง รวมทั้งวันที่เปิดคลาสเรียนนั้น สามารถติดตามได้ทางช่องทางอินสตราแกรม waannual_studio และช่องทาง LINE Official Account Waannual Studio 

Credits

Authors

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ