“ลูกเป็นกระเทยแล้วไง ยังไงก็รัก” คุยกับแม่เอ๋-จันทนา เกตุชญาคุณ ลมใต้ปีกของ ‘ปุ๊กอุฟ’ รองอันดับ 1 จากเวที Universe Is U

Universe Is U เป็นเวทีประกวดนางงามไม่จำกัดเพศที่เพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ได้เสียงตอบรับจากแฟนนางงามทั่วประเทศ และหนึ่งในกระแสไวรัลที่ถูกพูดถึงคือ ปุ๊กอุฟ-ไกรวัฒน์ เกตุชญาคุณ LGBTQ วัย 28 ปี ที่มีเป้าหมายในการเข้าร่วมประกวดเพื่อออกมาสื่อสารเรื่องของ LGBTQ ที่ถูกมองว่าเป็นเรื่องต้องห้ามในมุมมองของศาสนา

มนุษย์ต่างวัยพาไปคุยกับ แม่เอ๋-จันทนา เกตุชญาคุณ อายุ 49 ปี ผู้เป็นลมใต้ปีกของลูก LGBTQ ที่ชื่อปุ๊กอุฟ

“แม่รู้ว่าลูกเราเป็นลูกสาวตั้งแต่เขาอายุสามขวบเรียนอยู่อนุบาลหนึ่ง ตอนนั้นแม่ขายของ อุฟเดินมาขอตังค์แม่หนึ่งบาทเพื่อไปซื้อกระโปรงสีแดงตัวเล็กๆ มาใส่ เราก็แอบดูพฤติกรรมเขาอยู่ ลูกไม่ชอบฟุตบอล ส่วนมากจะชอบเล่นตุ๊กตา เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ความสุขของลูกเขาอยากเป็นอะไรก็ได้แม่ไม่ขัด”

แม้ว่าปุ๊กอุฟจะได้รับความรักและความเข้าใจจากคุณแม่อย่างเต็มเปี่ยม แต่ใช่ว่าเธอจะได้รับมันจากคนอื่นด้วย หลายคนมองว่าเธอเป็นตัวประหลาด ดูถูกด้วยคำพูด จนทำให้เธอต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวเองและครอบครัว

“ก่อนไปประกวดนางงาม เขาก็มาปรึกษาอยู่นะ แม่ก็บอกว่าเรื่องศาสนาอย่าไปพูดถึงให้มากเกินไปนำเสนอในมุมของลูกเองจะได้ไม่เกิดผลกระทบ ตามมาจำไว้ว่า สิ่งที่ลูกเป็นอยู่ตอนนี้ เมื่อลูกได้รับโอกาสลูกทำไป มีหลายคนที่เขาทำผิดกว่าลูกมากมาย แต่เราไม่ได้ทำผิดอะไร แค่เรามีจิตใจที่เป็นผู้หญิง แม่ว่าไม่บาปเพราะว่าลูกกตัญญูกับแม่มาก”

ความทรงจำของการถูกครอบครัวทอดทิ้งไม่เคยเลือนหายไปจากใจของแม่เลยสักครั้ง ในวันที่ต้องเดินออกมาตัวเปล่าเช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับลูก โดยไม่ได้รับมรดกเลยสักชิ้น ปุ๊กอุฟ จึงพยายามเก็บเงินสร้างบ้านใหม่ให้แม่และน้องอยู่ เธอทำงานด้วยความมานะบากบั่น ส่งเงินให้แม่สร้างบ้าน แต่กลับเจอปัญหาเมื่อบ้านที่กำลังก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้ ในขณะที่เงินเก็บของเธอกำลังจะหมด จึงต้องแบกหน้าไปขอยืมญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือ น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด มีเพียงแม่เอ๋ที่คอยโอบกอดและให้กำลังใจปุ๊กอุฟอยู่เสมอ ในวันที่เธอรู้สึกไม่เหลือใคร

“ตอนนั้นเราต้องซื้ออิฐมาทำบ้าน แต่ยังไม่มีหลังคา เพราะการทำหลังคาต้องใช้เงินก้อนประมาณเกือบสองแสน เราไม่มีเงินเลยไปขอยืมเงินเขาแสนกว่าบาท บอกว่าเดี๋ยวไม่เกินหนึ่งเดือนจะคืนให้ แต่เขาไม่ให้ เราร้องไห้หนักมาก เขาด่าเราว่า สร้างบ้านยังไงให้เหมือนโลงศพ กี่เดือนแล้วยังไม่มีหลังคาเลย”

จุดเปลี่ยนของชีวิตครั้งนั้น ทำให้ปุ๊กอุฟ ถอยออกมาตั้งหลักและเดินหน้าต่อ กำลังใจจากแม่คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เธอกล้าตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในการตัดขาดนามสกุลเดิม เพิ่มเติมคือแม่เอ๋ก็ขอเปลี่ยนนามสกุลที่เคยใช้มาครึ่งชีวิตของแม่ด้วยเช่นกัน

“เขาอยากมีนามสกุลเป็นของตัวเอง แม่ก็ไม่ว่า แล้วแต่ลูกเลย แม่ก็ขอเปลี่ยนด้วย ถ้าไม่มีใครสักคนยอมรับลูกของเรา เราต้องยอมรับเอง เพราะไม่งั้นลูกเราจะไปอยู่ที่ไหน ถ้ากลับบ้านที่เติบโตมาไม่ได้ ถ้าไม่มีใครสักคนจะกอดลูกเรา เราต้องเป็นคนกอด แล้วต้องกอดเป็นคนแรกด้วย”

ในวันที่ลูกประสบความสำเร็จคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจากเวที Universe Is U สิ่งที่สำคัญกว่ารางวัลคือ เจตนารมณ์และทัศนคติของ LGBTQ อย่างปุ๊กอุฟได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ จนคนรอบตัวรวมทั้งพ่อของเธอได้มองเห็นและเปิดใจยอมรับ

เธอในฐานะลูกสาวคนหนึ่ง แต่เรื่องราวดีๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจาก “แม่” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและเปรียบเสมือนลมใต้ปีกของปุ๊กอุฟ ซึ่งแม่เอ๋เองก็ดูจะภูมิใจกับลูกสาวคนนี้ไม่น้อย

“ชาวบ้านบางคนก็ยอมรับและชมว่าเราเลี้ยงลูกได้ดี ไม่เหมือนลูกเขาที่ติดยาเสพติดไปวันๆ แถมมาแสดงความดีใจกับเรา บอกว่าดีแล้วแหละ ลำบากมาตั้งแต่เด็ก สบายแล้วมีลูกเลี้ยง แล้วทุกคนก็ชมลูกสาวแม่กันใหญ่” . เพราะสำหรับแม่เอ๋ ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร สุดท้ายแล้วลูกก็คือลูกของแม่เสมอ

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ