“ถ้ามีอะไรติดค้างในใจ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปหรอก ในตอนที่ยังมีเรี่ยวแรงและสติครบถ้วน ถ้ามีอะไรที่อยากทำก็ลุยเลย…”
Navillera คือซีรีส์เกาหลีที่มุ่งประเด็นไปในเรื่อง ‘การทำตามความฝัน’ ซึ่งหากจะเทียบกับสื่อที่เราได้เสพจนคุ้นชิน เรื่องของ ‘ความฝัน’ มักจะอยู่คู่กับความเป็น ‘วัยรุ่น’ วัยที่พวกเขายังมีเวลาในการค้นหาตัวเอง ต่อให้ล้มก็ยังลุกขึ้นยืนใหม่ได้ สามารถใช้เรี่ยวแรงและกำลังที่มีเพื่อเดินหน้าทำตามฝันให้สำเร็จ
สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการสื่อสารไม่ได้พุ่งตรงไปที่คนดูกลุ่มวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการเสริมสร้างพลังใจให้กับ ‘ผู้สูงวัย’ ทั้งคนที่เป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หรือกลุ่มคนวัยเกษียณ ที่มักจะคิดว่าในช่วงอายุเท่านี้ อย่ามัวไปพูดถึงเรื่องความฝันให้เสียเวลาเลย แค่อยู่อย่างแข็งแรงเพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกหลานก็เพียงพอแล้ว
Navillera เล่าเรื่องราวของ คิมด็อกชุล (รับบทโดย พัคอินฮวาน) ข้าราชการเกษียณ วัย 70 ปี ที่ชีวิตทุกวันนี้มีความสุขอยู่กับการมองดูความสำเร็จของลูกหลาน ตั้งแต่เด็กเขามีความฝันอยากจะเป็นนักบัลเล่ต์ แต่เพราะการห้ามปรามของพ่อที่ว่า “เกิดเป็นผู้ชายทั้งที แต่กลับอยากทาแป้งแล้วเต้นงั้นเหรอ แกคิดจะใช้ชีวิตอยู่อย่างยากจนไปจนตายหรือไง”
คำพูดเหล่านั้นทำให้เขาจำเป็นต้องพับความฝันนี้เก็บไว้ แล้วเดินหน้าทำมาหากินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอดชีวิต เมื่อรู้ตัวอีกที เพื่อนฝูงที่เคยมีก็ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปทีละคน จนการจากลากลายเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาของชีวิตไปแล้ว นั่นทำให้เขาเริ่มตระหนักขึ้นมาว่า… ในช่วงชีวิตที่เหลือก็ควรต้องเริ่มลงมือในสิ่งที่อยากทำ เพื่อที่ว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องจากไป จะได้ไม่เสียดายอะไรอีก
อีแชรก: ทำไมถึงอยากเต้นบัลเล่ต์ล่ะครับ
“พ่อที่เอาแต่ห้ามไม่ให้ผมเต้นก็ไม่อยู่แล้ว แต่ผมกลับไม่กล้าคิดที่จะลองอีกครั้ง ผมใช้ชีวิตไปแบบนั้น อายุก็ปาเข้าไป 70 แล้ว ผมรู้ว่ามันสายไปแล้ว ตอนนี้คงต้องตัดใจแล้วล่ะ” – คิมด็อกชุล
แต่ในที่สุดความฝันของคิมด็อกชุลก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขาได้เห็นชายคนหนึ่งที่กำลังโบยบินเหมือนกับผีเสื้อด้วยท่วงท่าสง่างาม คนคนนั้นคือ อีแชรก (รับบทโดย ซงคัง) นักบัลเล่ต์อนาคตไกล วัย 23 ปี ที่แม้จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ แต่ด้วยชีวิตที่ต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ ทำให้เขาขาดการฝึกซ้อมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้อีแชรกไม่สามารถไปถึงฝันในการขึ้นแสดงบนเวทีระดับประเทศสักที
การพบกันของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นของการไล่ตามความฝันของคนสองช่วงวัย อีแชรก เป็นตัวแทนของวัยรุ่นที่กำลังเดินตามเส้นทางความฝัน พร้อมกับการเผชิญปัญหามากมายที่อยู่รอบด้าน ส่วนคิมด็อกชุล ถึงแม้จะมีความตั้งใจเต็มร้อย แต่เขาก็ต้องต่อสู้กับขีดจำกัดของร่างกายของตัวเองและคำทัดทานจากคนในครอบครัวที่ไม่เห็นด้วย เพื่อหวังจะเติมเต็มความปรารถนาเดียวในชีวิตที่เขาไม่เคยได้ทำมาก่อน
คนอายุ 70 ปีกับการเต้นบัลเล่ต์ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ แต่ซีรีส์ Navillera ทำให้เราได้เข้าใจว่า คำว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ อาจจะไม่ใช่บทสรุปของทุกความฝันเสมอไป เพราะต่อให้สุดท้ายแล้วทำไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้ลองทำมัน
Navillera เป็นซีรีส์ที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมากมาย และทำให้เราเชื่อว่าไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มทำตามความฝัน คุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่หัวใจของเรายังคงเต้นอยู่ ซึ่งข้อคิดเหล่านี้ไม่ได้สื่อสารผ่านตัวละครหลักทั้งสองคนนี้เท่านั้น แต่ยังมีตัวละครแวดล้อมอีกมากมายที่ต่างต้องใช้ชีวิตเพื่อเรียนรู้ เติบโต และตามหาความฝัน ไม่ว่าในตอนนั้นจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม
คิมด็อกชุล: ฉันอยากเต้นบัลเล่ต์ เพราะอยากจะโบยบินดูสักครั้ง
Navillera ซีรีส์เกาหลีความยาว 12 ตอน รับชมซับไทยได้ผ่านทาง Netflix