เมื่อการบริจาคเป็นมากกว่าการส่งต่อ แต่เป็นเครื่องมือที่ทำให้คนและโลกดีขึ้นไปพร้อมกันได้

“บางคนมีของจำนวนมากอยู่ในบ้านจนมันกลายเป็นภาระ แต่มีคนอีกกลุ่มที่เต็มใจจะรับของเหล่านั้น ของบางอย่างที่บางคนไม่ได้ใช้ แต่มันจะกลายเป็นของที่ถูกใช้ประโยชน์ได้ ถ้ามันถูกส่งต่อ”

สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิกระจกเงา กล่าวไว้ ณ เวที Sustrends หัวข้อ ‘จักรวาลแห่งการจัดของบริจาค’ ในงาน ‘Sustrend 2026’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ

ปี 2567 มีคนกว่า 100,000 คน ที่ขับรถไปบริจาคของที่มูลนิธิกระจกเงา และมีคนกว่า 10,000 คนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครกับมูลนิธิฯ และข้อมูลล่าสุดในเดือนกรกฎาคม ปี 2568 มูลนิธิกระจกเงามีคนมาร่วมทำงานเป็นอาสาสมัครไปแล้วกว่า 15,000 คน

ในมุมมองของมูลนิธิกระจกเงา เวลาที่พูดถึงการมีส่วนร่วม หรือการบริจาค ไม่ได้หมายความถึงในแง่ของการให้เงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ เท่านั้น เพราะอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถที่จะ ‘ให้’ ได้ และเป็นสิ่งที่ต้องการไม่น้อยไปกว่าสิ่งอื่น ๆ ก็คือ ‘เวลา’

คุณสมบัติบอกว่ามูลนิธิกระจกเงาเป็นนักจับคู่ของบริจาค และการจับคู่นั้นก็เกิดขึ้นได้ เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีของเกิน และมีคนอีกกลุ่มที่ขาดแคลนของเหล่านั้น ของเก่าสำหรับบางคน อาจเป็นของใหม่สำหรับใครอีกคน และเมื่อของเหล่านั้นถูกส่งต่อมันจะกลายเป็น ‘ของมีค่า’ ขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อจับคู่แล้ว ของเหล่านั้นจะถูกส่งต่อไปเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดผ่านการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ ของมูลนิธิฯ

  • โครงการป่วยให้ยืมโครงการที่รับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ใช้งานแล้วตามบ้าน เพื่อนำมาหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ เช่น เตียงผู้ป่วย วีลแชร์ เครื่องดูดเสมหะ เครื่องผลิตออกซิเจน ถังออกซิเจน ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นของที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีที่มีคนในบ้านเจ็บป่วย ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด ถ้าหากไปจัดหามาเองจะต้องใช้เงินประมาณ 50,000 บาท ซึ่งถือเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ทุกครอบครัวจะหามาได้ โครงการฯ นี้สามารถช่วยเหลือครอบครัวผู้ป่วยได้ปีละไม่น้อยกว่า 1,000 คน
  • นำหนังสือที่ได้รับบริจาคไปสร้างและรีโนเวทห้องสมุดตามโรงเรียนต่าง ๆ ทุกเดือน เดือนละ 1 โรงเรียน ซึ่งตอนนี้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 22 โรงเรียน
  • ส่งต่อเครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ กว่า 20 คันรถหกล้อ ไปตามโรงเรียนที่ขาดแคลน หรือโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ
  • นำแต้ม ALL member ไปแลกเป็นอาหารให้กับครอบครัวที่ขาดแคลน
  • เป็นแหล่งกระจายสินค้าให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยที่อยากเป็นผู้ประกอบการขายของมือสองผ่านเสื้อผ้ากว่า 1,000,000 ตัว ที่ถูกบริจาคเข้ามา

ไม่เพียงเท่านั้น เพราะสิ่งของต่าง ๆ ที่ถูกบริจาคไปยังมูลนิธิกระจกเงา ยังนำไปสู่การจ้างงานคนไร้บ้าน และผู้ป่วยจิตเวชประมาณ 250 คนต่อเดือน และถ้าหากมีผู้บริจาคประมาณ 600 รายต่อเดือน ก็จะทำให้คนไร้บ้าน 1 คนมีงานทำ

นอกจากนี้ มูลนิธิกระจกเงายังรับซ่อมแซมของต่าง ๆ ที่พัง เสียหาย ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่ถ้าของชิ้นนั้นไม่สามารถใช้งานต่อได้จริง ๆ ก็จะถูกแกะชิ้นส่วนต่าง ๆ ออก นำไปคัดแยก และนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป ผ่านการทำงานของกลุ่มจ้างวานข้า (กลุ่มคนไร้บ้านที่ต้องการการจ้างงาน เพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองให้ดีขึ้น)

จะเห็นได้ว่าโครงการต่าง ๆ ที่มูลนิธิกระจกเงาขับเคลื่อนนั้นไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศของการแลกเปลี่ยน หมุนเวียนที่นำทรัพยากรต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของการแบ่งปันที่ใครหลายคนอาจไม่เคยคิดว่าการส่งต่อสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่เป็นที่ต้องการ ไร้ประโยชน์ ไร้ค่า หรือทำอะไรต่อไม่ได้สำหรับเรา อาจส่งมอบโอกาสในการมีชีวิตที่ดีให้กับใครอีกหลายคนได้ และยังเป็นการสร้างโอกาสในการใช้ทรัพยากรโลกอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กันด้วย

Credits

Authors

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ