คุณเล่นเกมกับคนในครอบครัวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ?
หากให้พูดถึงเหตุผลของการเล่นเกมสักเกมหนึ่ง แน่นอนว่าหลายคนจะต้องตอบว่า เพราะสนุก ได้ผ่อนคลาย หรือเล่นเพื่อความบันเทิงส่วนตัว แต่คนที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เขามีเหตุผลในการเล่นเกมเพื่อรำลึกถึงคุณพ่อที่จากไป…
นี่คือเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ที่ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ยังคงเป็นอมตะบนโลกออนไลน์มาจนถึงวันนี้ ในปี พ.ศ. 2557 ยูทูบเบอร์คนหนึ่ง นามแฝงว่า “00WARTHERAPY0” ได้เขียนโพสต์เล่าประสบการณ์จริงของตัวเองที่ผ่านรายการ PBS Digital Studios ซึ่งเป็นช่องยูทูบที่กำลังพูดคุยกันในหัวข้อ “วิดีโอเกมสามารถเปิดประสบการณ์ทางจิตวิญญาณได้หรือไม่”
โดย “00WARTHERAPY0” ได้แสดงความเห็นในช่องคอมเมนต์ว่า เขากับคุณพ่อชอบเล่นเกมแข่งรถชื่อ “RalliSport Challenge” บนเครื่อง Xbox ด้วยกัน แต่พ่อก็จากไปในขณะที่เขาเพิ่งอายุได้ 6 ขวบ การสูญเสียครั้งนั้นสร้างความเจ็บปวดจนทำให้เขาไม่คิดจะเล่นเกมดังกล่าวอีกเลยเป็นเวลา 10 ปี
ทว่าเมื่อเขาอายุ 16 ปี จึงได้ตัดสินใจปัดฝุ่นเครื่อง Xbox และเล่นเกมแข่งรถนั้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้เขาสังเกตเห็นบางอย่าง นั่นคือพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ในนั้น แต่อยู่ในรูปแบบของรถคู่แข่งที่เกมบันทึกไว้ ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลอัตโนมัติของเกม RalliSport Challenge ที่จะบันทึกเอาไว้ว่าผู้เล่นคนไหนทำสถิติเวลาที่เร็วที่สุด และเกมจะให้รถแข่งคันนั้นเล่นซ้ำในทิศทางเดิมไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นมาทำลายสถิตินั้นให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า พ่อของเขาคือคนที่ทำสถิติได้เร็วที่สุดในเกม และเกมก็ฉายภาพรถของพ่อซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีผู้เล่นคนอื่นมาทำลายสถิตินั้นได้
โดยคอมเมนต์ที่เขาโพสต์ในรายการ มีใจความที่บอกอย่างละเอียดไว้ดังนี้
“เมื่อผมอายุ 4 ขวบ พ่อผมซื้อเครื่องเล่นเกม Xbox มาให้ มันเป็นเครื่องสี่เหลี่ยมผิวขรุขระจากปี 2001 ซึ่งผมกับพ่อเล่นเกมด้วยกันหลายครั้ง และมีช่วงเวลาดี ๆ กับมันมากมาย จนกระทั่งพ่อจากผมไปตอนที่ผมอายุ 6 ขวบ”
“หลังจากนั้นผมก็ไม่กลับไปเล่นมันอีกเลยเป็นเวลา 10 ปี จนกระทั่งผมนึกบางอย่างได้ พวกเราเคยเล่นเกมแข่งรถ RalliSport Challenge ด้วยกัน ยุคนั้นถือว่าเป็นเกมที่ฮิตและสนุกมาก ๆ ผมเลยกลับไปเล่นเกมนั้นอีกครั้ง ปรากฏว่าผมเจอ ‘วิญญาณของพ่อ’
“ตามนั้นเลย พ่อผมเป็นวิญญาณอยู่ในนั้น เพราะใคร ๆ ก็รู้ในเกมนี้ เวลาผู้เล่นขับรถแข่งขันกัน เกมจะบันทึกว่ารถใครทำเวลาได้เร็วที่สุด และถูกทำให้เป็น วิญญาณประจำด่านนั้น และตอนนี้รถวิญญาณของพ่อผมยังคงแล่นอยู่ในด่านนั้นอยู่เลย”
“ผมเลยกลับมาแข่งกับพ่อ พยายามเล่น เล่น เล่น แล้วก็เล่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งรถของผมแซงรถวิญญาณของพ่อได้ แต่สุดท้ายผมก็หยุดรถ ก่อนเข้าเส้นชัย แล้วปล่อยให้พ่อแซงไปก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าวิญญาณของพ่อผมจะไม่ถูกเกมลบให้หายไป”
นี่ถือเป็นเรื่องราวที่สะเทือนใจต่อคนที่เข้ามาอ่านเป็นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องราวที่สวยงามด้วยเช่นกัน ซึ่งน่าเสียดายที่ระบบของยูทูบทำให้คอมเมนต์นั้นหายไปตามกาลเวลา ทว่าโชคยังดีที่ในปี 2016 มีช่องยูทูบช่องหนึ่งชื่อ “John Wikstrom” ได้นำเรื่องราวนี้มาเล่าใหม่ในรูปแบบหนังสั้นความยาว 1 นาทีครึ่ง โดยตั้งชื่อวิดีโอนั้นว่า “Player Two” ซึ่งแปลว่า “ผู้เล่นคนที่สอง” ที่มีความหมายบอกเป็นนัยว่า หากลูกชายคือผู้เล่นคนที่หนึ่ง พ่อก็คือผู้เล่นคนที่สองซึ่งจะคอยขับรถเป็นเพื่อนลูกชายอยู่ในเกมนั้นตลอดไป แม้ว่าเขาจะจากไปแล้วก็ตาม
เมื่อวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ ก็มีคนมาคอมเมนต์บอกเล่าความรู้สึกหลังจากที่ได้ดูเป็นจำนวนมาก ในทำนองที่ว่า “ฉันอายุ 38 แล้ว แต่เรื่องราวนี้ทำให้ฉันคิดถึงพ่อที่ตายไปแล้วจนใจแทบขาด” บางคนก็บอกว่า “ให้ตายเถอะ ผมอยากกลับไปเล่นเกมกับพ่ออีกสักครั้งถ้าเป็นไปได้” และบางคนก็ถึงขั้นคอมเมนต์ว่า “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าโลกนี้จะมีที่เก็บวิญญาณของคนที่เรารักได้ และสิ่งนั้นคือวิดีโอเกม”
เรื่องราวนี้ทำให้วัยรุ่นรวมไปถึงผู้ใหญ่หลายคน หวนนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้เล่นเกมกับครอบครัวตอนที่พวกเขายังเป็นเด็ก ในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนตอนนี้ หากจะมีเพื่อนเล่นเกมด้วยกันสักคน ก็ต้องรอให้พ่อเลิกงาน หรือไม่ก็ต้องรอเพื่อนมาเจอกันที่บ้าน แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างมากถึงมากที่สุด ทำให้ไม่ว่าจะเปิดเล่นเกมตอนไหนก็สามารถเชื่อมต่อกับผู้เล่นเกมคนอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลกับเราได้ วิดีโอเกมที่จากเดิมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นความบันเทิงกับคนในบ้าน จึงกลายเป็นการเล่นกับเพื่อนในโลกออนไลน์แทนการเล่นกับคนในครอบครัว
จริงอยู่ที่การเล่นเกมกับคนในโลกออนไลน์อาจสนุกกว่าและท้าทายกว่า แต่การเล่นเกมกับคนในครอบครัวก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าอย่างหนึ่งที่ไม่มีสิ่งไหนมาแทนที่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราตระหนักดีว่าเวลากับคนในครอบครัวนั้นมีวันหมดลง
ทุกวันนี้เราอาจจะมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ ทั้งเรื่องเรียน งาน ความรัก การสร้างครอบครัว หรืออยู่กับเพื่อน จนอาจทำให้เราลืมไปว่าพ่อแม่และคนในบ้าน พวกเขาก็ยังคงอยากมีช่วงเวลาที่ดีกับเราเช่นกัน ฉะนั้นไม่ว่าตอนนี้คุณจะเล่นเกม หรือมีงานอดิเรกอะไรก็ตาม ก็อย่าลืมชวนพวกเขามาทำด้วยกันบ้าง เพื่อให้ช่วงเวลาที่ยังอยู่ด้วยกัน ถูกจดจำในแบบที่ดีที่สุดเมื่อนึกถึง
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การชวนพ่อมานั่งเล่นเกมกับเรา แต่มันคือการเตือนสติว่า “บางครั้งคนในครอบครัว ก็คือคนที่จากเราไปเร็วที่สุด” ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้น เราจะมีวิธีจดจำพวกเขาในแบบไหน เพื่อไม่ให้คนที่เรารักหายไปตลอดกาล
สามารถเข้าไปชมวิดีโอของเรื่องราวนี้ได้ที่ : https://bit.ly/3Nal7yU
ที่มา
