งานอาสาสมัครให้อะไรกับชีวิต ? เสียงจากอาสาสมัครมืออาชีพ จากเวที World of Volunteers ในงาน Sustrends 2026

คุณอาจเคยได้ยินประโยคที่บอกว่า ‘เวลาไม่สบายใจ ให้ลองออกไปช่วยคนอื่น’ การที่เราออกไปช่วยคนอื่นนั้น อาจไม่ได้ทำให้ปัญหา หรือความทุกข์หายไปไหน แต่มันอาจทำให้เราได้ลองหยุดพักความคิด เอาตัวเองออกจากเรื่องราวที่ทำให้เรากังวลสักพัก และเมื่อใจเราเบาลง ก็อาจทำให้เราได้พบกับแง่มุมใหม่ ๆ ของชีวิต ได้เรียนรู้และสัมผัสความรู้สึกดี ๆ จากสิ่งที่เราอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ทำ

มนุษย์ต่างวัยนำส่วนหนึ่งจากเวที World of Volunteers หัวข้อ ‘Behind the Badge : Stories from Pro Volunteers’ โดย คุณอรุณชัย นิติสุพรรัตน์ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม I SEE U Contemplative Care, คุณอารีย์ โพธิ์ศรี ประธานชมรมอาสาสมัครอนุรักษ์สิ่งดีงาม และคุณสุประวีณ์ หวังดุลยกิติ ฝ่ายประสานงาน ธนาคารจิตอาสา จากงาน ‘Sustrend 2026’ ในธีมของ ‘อาสาสมัคร’ เพราะปี 2026 ถือเป็น ‘ปีอาสาสมัครสากลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน’ ซึ่งจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568

คุณอรุณชัยเริ่มต้นงานอาสาสมัครจากประสบการณ์ตรงของตัวเองในการส่งคุณพ่อให้จากไปอย่างสงบในชีวิตช่วงท้าย จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าอยากส่งต่อความรู้สึกดี ๆ แบบนั้น ให้คนอื่นได้เข้าถึงความรู้ และมีโอกาสดูแลคนที่เขารักให้จากไปอย่างดีที่สุด

คุณอารีย์เริ่มการทำงานอาสาสมัครจากการไปช่วยงานที่วัดแล้วเห็นว่าที่วัดมีขยะเยอะมาก ก็เลยคิดว่าทำไมคนไปทำบุญ ไปไหว้พระ แต่กลับทิ้งขยะไว้เต็มไปหมด เลยคิดว่าอยากทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ ก็เลยตั้งกลุ่มเล็ก ๆ ขึ้นมาแล้วไปช่วยเก็บขยะที่วัด จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับไปเก็บที่อนุสาวรีย์ เพราะอยากให้ผู้คนตระหนักถึงการช่วยกันรักษาความสะอาดมากขึ้น พอเก็บขยะมาเรื่อย ๆ ก็นำขยะที่เก็บไว้ไปสร้างประโยชน์ต่อด้วยการทำหมอนหลอดจากขยะ ไม้กวาดจากขวดพลาสติก ฯลฯ

ส่วนการเริ่มต้นทำงานอาสาสมัครของคุณสุประวีณ์เกิดจากความรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรบางอย่างไป เหมือนยังหาตัวเองไม่เจอ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีงานทำ มีรายได้ มีเวลาดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ได้อยู่กับครอบครัว แต่กลับรู้สึกเหมือนชีวิตยังมีบางอย่างที่ขาดหายไปอยู่ วันหนึ่งเธอได้พบจุดเปลี่ยนของชีวิต คือ การเข้าร่วมกิจกรรมอบรมอาสาสมัครเรียนนวดกระตุ้นระบบน้ำเหลือง ที่นั่นทำให้เธอได้เจอกับสังคมใหม่ ผู้คนใหม่ ๆ และเจอบรรยากาศดี ๆ ที่ทุกคนมาด้วยความตั้งใจมาให้ มาแบ่งปันกัน บางคนเตรียมเสื่อ เตรียมอาหารมา ก็นำมาแบ่งให้กับคนที่ไปเข้าร่วมกิจกรรมด้วยกัน

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการถูกเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างในจิตใจ ซึ่งน่าแปลกที่ทุกคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับมีความรู้สึกเชื่อมโยงกันได้ หลังจากนั้นเธอก็ทำงานอาสามาเรื่อย ๆ ใครจัดกิจกรรมอะไร ที่ไหน ก็ไป จนกระทั่งทุกวันนี้เธอได้มาดูแลงานสื่อสารองค์กรให้กับธนาคารจิตอาสา

คุณค่าของงานอาสาสมัคร

  • เติมความสุขให้ชีวิต และทำให้เห็นคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น

การทำงานอาสาทำให้มองเห็นความเสมอภาคของการมีชีวิต ทั้งของคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม การไปเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ทำให้เราเห็นความสำคัญของคนอื่น สิ่งอื่น เท่า ๆ กับความสำคัญของตัวเราเอง ซึ่งนำไปสู่การมีความเมตตาต่อกันมากขึ้น และอยากให้คนอื่นได้รับสิ่งดี ๆ ไม่ต่างจากที่เราอยากให้กับตัวเอง

  • เป็นพื้นที่ย้อนวัย ให้ได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง    

การเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่รับผิดชอบมากมาย บางครั้งชีวิตการทำงาน ภาระหน้าที่ต่าง ๆ อาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อย รู้สึกห่อเหี่ยว ไม่สดใส ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง แต่การทำงานอาสานั้นไม่ต้องมีตัวตน ทำได้แบบอิสระ ทำอะไรก็ได้ เล่นสนุกได้ และมีความสุขกับเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

  • ให้ชีวิตใหม่ เปลี่ยนให้คนเรากลายเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น 

หลายครั้งงานอาสาก็พาเราไปพบผู้คนใหม่ ๆ เพื่อนใหม่ ๆ ที่มีความคิด ความต้องการที่จะเป็นผู้ให้เหมือนกัน และมีโอกาสได้เติมเต็มบางอย่างให้แก่กันและกัน การที่เราเกิดมาบนโลกนี้ ทุกคุณต่างมีคุณค่าอยู่แล้ว เพียงแต่บางครั้งชีวิตที่เราใช้อยู่อาจจะยังไม่พาให้เราได้เจอพื้นที่หรือเวทีของตัวเอง แต่การทำงานอาสาสมัครอาจจะเปิดโอกาสให้หลายคนได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่อาจจะยังไม่เคยทำมาก่อน จนทำให้ได้พบคุณค่าหรือความหมายบางอย่างในตัวเอง และได้เปลี่ยนความคิด หรือทัศนคติบางอย่างไป แล้วกลายเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

Credits

Authors

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ