รู้หรือไม่? ลำไส้ที่ไม่แข็งแรงก็อาจเพิ่มโอกาสการเป็น ‘โรคซึมเศร้า’

เวลาพูดถึงโรคซึมเศร้า เรามักจะนึกถึงความผิดปกติของสารเคมีในสมอง แต่รู้หรือไม่ ? ว่าสารสื่อประสาท ‘เซโรโทนิน’ ที่สมองใช้ป้องกันโรคซึมเศร้าไม่ได้ถูกผลิตมากที่สุดที่สมอง แต่เป็นที่ ‘ลำไส้’ และผลิตในปริมาณมากถึง 95%

ยิ่งไปกว่านั้นเราอาจไม่เคยนึกมาก่อนว่า 90% ของโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายล้วนมีผลทางใดทางหนึ่งที่มาจากสุขภาพของลำไส้ หรือจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ และกว่า 70% ของระบบภูมิต้านทานในร่างกายก็รวมกันอยู่ที่​ ‘ลำไส้’ ของเรา

ลำไส้ของคนเรามีระบบประสาทเฉพาะตัวที่เรียกว่า Enteric Nervous System หรือ ENS

ซึ่งมีผลต่อการสั่งงานของสมองและพฤติกรรมของคนเรา ประกอบด้วยเซลล์ประสาทกว่า 500 ล้านเซลล์ ซึ่งเซลล์ประสาทหลายร้อยล้านเซลล์ในลำไส้สามารถทำหน้าที่ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอรับคำสั่งจากสมองหรือไขสันหลัง ไม่ว่าจะเป็นการบีบตัว การหลั่งฮอร์โมนหิว-ฮอร์โมนอิ่ม และการหลั่งเอนไซม์ต่าง ๆ เราจึงเรียกลำไส้ในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สมองที่ 2’ ของร่างกาย

ลำไส้ยังทำหน้าที่ผลิตสารสื่อประสาทกว่า 40 ชนิด และผลิตสารสื่อประสาทเซโรโทนินมากถึง 95% ซึ่งเซโรโทนินเป็นสารสื่อประสาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์ หากมีในระดับที่เหมาะสม จะช่วยปรับความรู้สึกและอารมณ์ในทางบวก ทำให้มีความสุข ความสงบ ใจเย็น มีสมาธิ ไม่หวั่นไหวง่าย นอกจากนี้ เซโรโทนินยังสามารถเปลี่ยนไปเป็นเมลาโทนิน หรือสารเคมีที่ควบคุมวงจรการนอนและการตื่นได้ เมื่อมีปริมาณไม่สมดุลก็จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคนอนไม่หลับ

ในทุก ๆ วันลำไส้ของเราจะสื่อสารกับสมองผ่านทางเส้นประสาทอัตโนมัติเส้นใหญ่ที่ต่อตรงจากแกนกลางลำตัวขึ้นสู่สมอง หรือที่เรียกว่า ‘เส้นประสาทเวกัส’ ซึ่งลำไส้กับสมองไม่ได้สื่อสารกันเฉพาะเรื่องปากท้อง หรือความหิวความอิ่มเท่านั้น แต่ยังสื่อสารในเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก และการรับรู้ต่าง ๆ ด้วย อาจเรียกได้ว่าลำไส้มีส่วนในการบงการสมอง หรือบงการการแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ รวมถึงการตัดสินใจของเราด้วย อย่างที่หลายคนอาจเคยมีความรู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วน เหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้อง ในเวลาที่มีความรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า หรือวิตกกังวลเกิดขึ้นกับร่างกาย

นอกจากนี้ ในลำไส้ของคนเรายังเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ต่าง ๆ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าเซลล์ทั้งหมดในร่างกายรวมกันถึง 10 เท่า คนเรามียีนในร่างกายประมาณ 20,000-25,000 ยีน แต่จำนวนจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายเรามีมากถึง 2-20 ล้านยีน

จุลินทรีย์เหล่านี้ทำหน้าที่ช่วยฝึกเม็ดเลือดขาวให้แยกแยะว่าใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู จะได้ไม่ทำลายเซลล์ในร่างกายตัวเอง ช่วยแยกสารอาหาร สังเคราะห์วิตามิน และช่วยควบคุมระบบเผาผลาญ และกระบวนการต่าง ๆ ในระดับโมเลกุลร่างกายอีกนับไม่ถ้วน ยิ่งความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้ลดน้อยลงเท่าไร ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคต่าง ๆ ในร่างกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงโรคทางจิตประสาท และโรคติดเชื้ออื่น ๆ ด้วย ดังนั้น หากเราไม่มีจุลินทรีย์เหล่านี้อยู่ในร่างกายเลย เราก็อาจจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เช่นกัน

นั่นเป็นสาเหตุให้เมื่อไรก็ตามที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับลำไส้ ร่างกายหรือจิตใจของเราก็มักจะป่วยตามไปด้วย ดังนั้น เราจึงควรดูแลลำไส้ให้แข็งแรง สร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ เพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพพื้นฐานที่เรารู้กันดี อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกินให้ดี เลือกกินผักผลไม้ให้หลากหลาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ การที่เราฝึกหายใจ ทำสมาธิ ฟังเพลง หัวเราะบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงความเครียด หรือแม้กระทั่งการอาบน้ำเย็นก็เป็นการกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส และเพิ่มการสื่อสารของระบบประสาทในลำไส้ด้วย

วันนี้เราอาจจะต้องย้อนกลับมามองร่างกายของเราในรูปแบบใหม่ เพราะร่างกายนี้อาจไม่ได้เป็นของเราเท่านั้น แต่เป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเรา ถ้าหากวันนี้เราอยากเริ่มต้นใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ไม่เจ็บป่วยทั้งทางกายและทางใจ อาจกลับมาเริ่มต้นง่าย ๆ ที่การดูแลสุขภาพ ‘ลำไส้’ ให้แข็งแรง

อ้างอิง

หนังสือ Healthitude (Healthy + Attitude) สุข (อุดม) คติ โดย นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์

Credits

Author

  • มนุษย์ต่างวัย

    Authorพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสังคมสูงวัยในมุมที่สนุก สร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัย

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ