“เราจะต้องไม่มีคำว่าทำไม่ได้อยู่ในความคิด ลองทำดูก่อนว่าเราทำได้ไหม ต้องกล้าลงมือทำ อย่าไปคิดว่าเราแก่ อายุ 50 ปีแล้วเราทำไม่ได้ ถึงเราจะอายุเยอะ เราก็มีความสามารถ ยิ่งอายุเยอะก็เท่ากับว่าเรายิ่งผ่านประสบการณ์ ผ่านบทเรียนมาเยอะ”
มนุษย์ต่างวัย คุยกับ ‘แม่ภา’ สุภาวดี นิยมวงศ์ วัย 54 ปี แห่งไร่วันยังขำ เจ้าของสวนกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์ที่ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 40 ไร่ ในต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่มีจุดเริ่มต้นจากการดูแลต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ที่ลูก ๆ อยากให้แม่ลองเลี้ยงเพื่อฮีลใจในวันที่พายุพัดสวนยางซึ่งเป็นความฝันและแผนเกษียณที่แม่ภาสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงให้พังลงไปต่อหน้าต่อตา
ในวันที่ความฝันแรกล้มไป ความฝันใหม่ก็เกิดขึ้น แม่ภาค่อย ๆ ศึกษาธรรมชาติของกระบองเพชรสายพันธุ์ต่าง ๆ ลองปลูกมาเรื่อย ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็มีต้นไม้พวกนี้อยู่เต็มสวน เหล่าน้องบองของแม่ภาได้นำพารอยยิ้มและสีสันใหม่ ๆ กลับมาสู่ชีวิตของแม่ภาอีกครั้ง เพราะนอกจากหน้าที่รดน้ำ พรวนดิน ดูแลสวน แม่ภายังกลายเป็นครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ของกระบองเพชรอย่างสนุกสนานผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘ไร่วันยังขำ One young kham farm’ จนมีผู้ติดตามเพจเกือบ 5 แสนคน และทางช่องติ๊กต๊อกอีกกว่า 3 แสนคน
ตอนนี้แม่ภากำลังต่อยอดความฝันให้เติบโตขึ้นไปอีกก้าว ด้วยการเนรมิตพื้นที่ส่วนหนึ่งในไร่ให้กลายเป็นคาเฟ่เพื่อต้อนรับผู้คนที่อยากเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามของเหล่าน้องบองแสนรักของแม่ภา ซึ่งตั้งใจว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
ล้มแล้วไง…ไปต่อ
ที่ดินที่ปลูกทั้งพืชพันธุ์และความฝันของแม่ภาให้เติบโตและงอกงามอย่างทุกวันนี้เป็นของ ‘ย่าวัน’ แม่สามีของแม่ภา นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ไร่แห่งนี้มีชื่อว่า ‘วันยังขำ’ เพราะแม่ภาบอกว่าตั้งใจทำไร่ ทำสวนในที่ของย่าในตอนที่ย่ายังมีความสุขและเสียงหัวเราะอยู่ ตอนแรกที่แห่งนี้เคยเป็นสวนยางพารามาก่อน แต่เพราะความไม่แน่นอนของชีวิตและธรรมชาติ สิ่งที่เคยหวังและตั้งใจไว้จึงไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด
“ตอนแรกแม่ภาทำสวนยางพารา กะว่าถ้าถึงเวลาได้กรีดก็คงจะสบาย ตอนนั้นแม่ภาปลูกมาได้ 7-8 ปี ได้กรีดไปแล้ว 3-4 ปี แต่ว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิด พอพายุมาถล่ม ไร่ก็เสียหายหมดจนเข้าไปกรีดไม่ได้ ถ้าคนงานเข้าไปกรีดมันอาจจะล้มทับเขา ตอนนั้นเหมือนหัวใจสลาย แต่ก็คิดว่าอย่างน้อยเราก็ยังโชคดีที่ต้นยางมันไม่ได้ล้มทับใครจนได้รับบาดเจ็บ แต่แม่ภาก็ไม่ได้ท้อนะ เพราะคิดว่าดินมันยังสวยอยู่ ถ้าเราเอาต้นยางออกมันก็ปลูกอย่างอื่นได้ แล้วมันอาจจะพาเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่าก็ได้
“แม่ภาก็เลยตัดสินใจล้มต้นยางทิ้ง แล้วเปลี่ยนจากสวนยางมาปลูกผลไม้ พวกเงาะ ลำไย ทุเรียน มังคุด แต่ในร่องผลไม้ มันยังมีช่องว่างอยู่ แม่ภาก็เลยปลูกกล้วยไปส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ลงกระบองเพชร ลองปลูกเล่น ๆ ดูว่ามันจะดีไหม สวยไหม พอปลูกออกมาแล้วมันสวย แม่ภาก็หลงใหลความสวยงามของต้นจามาคารู แล้วก็เลยขยายมาเรื่อย ๆ”
ยิ่งรู้จักยิ่งรักบอง
“ช่วงที่สวนยางของแม่ภาโดนพายุถล่ม ลูก ๆ เขาก็กลัวแม่ภาจะเครียดแล้วคิดมาก เขาก็เลยหาอะไรมาให้แม่ภาได้เล่น เริ่มจากกระบองเพชรต้นเล็ก ๆ หลังจากนั้นพอได้จามาคารูมากอหนึ่งเขาก็เอามาให้แม่ปลูก แม่ก็ลองปลูกดู ช่วงแรก ๆ เราก็ลุ้นตลอด มาคอยถ่ายรูป คอยดูว่าเมื่อไรมันจะสูงท่วมหัวเราสักที ทีนี้พอมันสูงท่วมหัวเราแล้วมันดูอลังการมาก เหมือนในการ์ตูนเลย พอเราได้กอด ได้ถ่ายรูป เราก็รู้สึกว่ามันดูมีชีวิตชีวา ดูจับต้องได้ ก็เลยอยากกอดมันทุกวัน แล้วก็อยากขยายให้มันเต็มสวน
“ก่อนหน้านี้แม่ภาไม่เคยรู้จักกระบองเพชรเลย เคยเห็นเพื่อน ๆ เขาปลูกกันกระถางเล็ก ๆ แต่เราก็ไม่อิน ไม่รู้จะปลูกไปทำไม ต้นเล็ก ๆ หนาม ๆ ไม่ได้มีความรู้สึกชอบเลย แต่พอได้มาศึกษาดูจริง ๆ ทีละต้น ดูหนาม ดูความละเอียด แล้วพอได้เห็นดอกมันก็เริ่มอิน เพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้รู้ว่ากระบองเพชรมันมีดอก แล้วดอกมันก็สวย ยิ่งพอเราปลูกแล้วมันออกดอกก็ยิ่งตื่นเต้น ดีใจ
“กระบองเพชรมันเลี้ยงง่าย โตไว ปลูกทิ้ง ๆ ไว้มันก็สวย บางทีปลูกทิ้งไว้จนลืม แต่มันก็งอกขึ้นมาอยู่ดี ในร่องผลไม้ในสวนเรามันมีช่องว่างอยู่ ถ้าเราไม่ปลูก หญ้ามันก็ขึ้น แต่ถ้าเราเอากระบองเพชรไปปลูก ก่อนที่ผลไม้มันจะโต ต้นกระบองเพชรมันก็จะโตให้เราได้ชื่นชมก่อน
“ตอนแรกแม่ภาทำคนเดียวหมดทุกอย่างเลย แต่ทำไม่ไหว ก็เลยไปชวนเพื่อน ๆ มาช่วยกันปลูก แบ่งเป็นทีมปลูก ทีมปราบ ทีมตัด ตอนแรกก็มาช่วยแค่ 1-2 คน แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต้นไหนสวยเราก็ตัดแบ่งไปขายให้ลูกค้า ต้นไหนไม่สวยแม่ภาจะเอาไว้ปลูกเอง ตอนนี้รวม ๆ ก็ปลูกไปแล้ว 18 ไร่แล้ว 6 ไร่อยู่ในร่องผลไม้ อีก 12 ไร่ปลูกเฉพาะกระบองเพชรอย่างเดียว
“ที่นี่ปลูกต้นกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์ เช่น จามาคารู ริทเทอโร เปรูเวียนมอนสเตอร์ไร้หนาม ส่วนพวกโอพันเทียก็จะมีฟิคัสอินดิก้า ฟิคัสอินดิก้าอินเนอมิส โอลเม็กซิโก เดคูมานา สตริคตา นาคันทา ฯลฯ พันธุ์ที่แม่ภาชอบที่สุด คือ จามาคารู เพราะฟอร์มมันสวย เลี้ยงง่าย กินผลได้ด้วย ผลสีแดง อร่อยมาก”
พื้นที่ปันสุข
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสน่ห์ของกระบองเพชรยักษ์ที่สวยจนแม่ภาหลงใหลจนอยากบันทึกภาพทุกมุมเก็บไว้ หรือความสุขในหัวใจที่มันล้นจนอยากป้ายยาให้คนอื่นได้รู้จักเหล่ากระบองเพชรที่แม่ภาหลงรัก จึงเป็นที่มาของการทำเพจเฟซบุ๊กและตามมาด้วยช่องติ๊กตอกเพื่อเล่าเรื่องและอวดความสวยงามของเหล่ากระบองเพชรในไร่วันยังขำด้วย
“ตอนที่เริ่มทำเพจ แม่ภาก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นธุรกิจหรือเอาไว้ซื้อขายอะไร ไม่รู้หรอกว่ามันจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เพียงแค่อยากทำไว้บันทึกเรื่องราวความเป็นไปของสวนเรา ทำด้วยความสุข ความสบายใจ ไม่มีความคาดหวังอะไร มีแต่ความตั้งใจว่าจะแบ่งปันความสุขให้เพื่อน ๆ ได้มาเก็บความสุขที่นี่ ใครเครียดเรื่องอะไรก็ตาม ถ้ามาอยู่ตรงนี้ แม่ภาก็อยากให้ที่นี่เป็นสถานีเติมความสุขของเขา
“เวลาแม่ภาโพสต์คลิปไปก็จะมีเพื่อน ๆ แวะเข้ามาคอมเมนต์ เราก็ได้คุยกับเขาแต่คุยได้แค่สั้น ๆ ก็เลยเปลี่ยนมาไลฟ์สด เพราะแม่ภาอยากคุยกับเพื่อน ๆ ไม่ได้โฟกัสว่ามันจะต้องได้ขายของเท่านั้น แม่ภาโฟกัสแค่ว่าเราได้คุยกัน ได้มีความสุขร่วมกัน เพราะส่วนใหญ่คนที่เขาเข้ามาคุยก็จะเป็นคนที่รัก ที่ชอบต้นไม้เหมือนกัน ได้พูดคุยกันแล้วมันมีความสุข ส่วนเรื่องการขาย ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะขาย จริง ๆ ก็เกิดจากความอยากแบ่งปันต้นไม้สวย ๆ ให้เพื่อน ๆ มากกว่า”
บทเรียนจากความล้มเหลว
“ไม่ต้องกลัวการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ขอให้คิดเสมอว่าเราโชคดีแล้ว อย่างไม้มันล้ม เราก็โชคดีที่เรายังมีดิน มีแรง มีกำลังเหลืออยู่ เราต้องรู้สึกว่าเราโชคดี บอกกับตัวเองบ่อย ๆ ว่าเราโชคดีนะ อย่างแม่ภาก็จะบอกกับตัวเองว่า แม่ภาโชคดีนะที่เกิดบนดินภูเขาไฟ แม่ภาโชคดีนะที่มีลูก ๆ คอยสนับสนุน แม่ภาโชคดีที่เจอต้นจามาคารู แม่ภาโชคดีที่วันนี้เราได้เจอมากัน
“แม่ภาคิดว่าจริง ๆ ทุกคน ทุกชีวิต มีความโชคดีอยู่กับตัวเองกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะมองเห็นความโชคดีของตัวเองไหม เราต้องค้นให้พบว่าเราโชคดีตรงไหน เรามีอะไรดี เพราะเรามีแน่นอน แค่หาความโชคดีของตัวเองให้เจอว่าเรามีความโชคดีอะไรอยู่ในตัวเรา
“ความสำเร็จของแม่ภาทุกวันนี้คือความสุขที่เกิดขึ้นในครอบครัว ได้มีเรื่องคุยกับลูก ๆ มีกิจกรรมให้ทำด้วยกัน ลูก ๆ เลิกงานมาก็มาไลฟ์ด้วยกัน มีเพื่อน ๆ แวะมาชื่นชม มาถ่ายรูป มาพูดคุยกับเรา แค่นี้แม่ภาก็มีความสุขแล้ว”