Perfect Days ชีวิตสุขได้ในทุกวันธรรมดา

“วันหลังก็คือวันหลัง วันนี้ก็คือวันนี้”

เป็นประโยคที่คุณลุงฮิรายามะพูดกับหลานสาวที่ฟังดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นการย้ำเตือนให้เรากลับมาอยู่กับปัจจุบันและทำวันนี้ที่จับต้องได้ให้ดีที่สุด

มนุษย์ต่างวัย ชวนดูหนังแล้วย้อนกลับมามองชีวิตให้ชัดขึ้นกับภาพยนตร์สุดแสนเรียบง่ายอย่าง Perfect Days ผลงานของ วิม เวนเดอร์ส ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเยอรมันที่ได้เข้าชิง “รางวัลออสการ์” สาขา “ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม” ในปีนี้

การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีฉากที่แสดงให้เห็นถึงอุปสรรคชีวิตที่ตัวละครต้องฝ่าฟัน และไม่มีโมเมนต์การประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของตัวละคร มีเพียงแค่การฉายภาพกิจวัตรประจำวันของชายวัยกลางคน คุณลุงฮิรายามะ พนักงานทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะในโตเกียว ที่จะตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดจากเสียงกวาดใบไม้ของเพื่อนบ้าน เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ทำกิจวัตรประจำวัน วนเวียน ซ้ำไปซ้ำมา หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน ก็จะไปรดน้ำต้นไม้เล็ก ๆ ยิ้มให้กับการเติบโตของมัน เดินออกจากบ้านแหงนหน้ามองท้องฟ้า มีอาหารเช้าเป็นกาแฟกระป๋องที่กดจากตู้หยอดเหรียญ และเพื่อนร่วมทางเป็นบทเพลงเก่า ๆ ที่เปิดฟังจากเทปคาสเซตต์

เมื่อไปถึงสถานที่ทำงานคุณลุงฮิรายามะก็เริ่มทำงานทันทีราวกับว่ามีใครหลายคนรอการทำหน้าที่ของเขาอยู่ ขัด ล้าง ห้องน้ำ อย่างใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกจุดอย่างประณีต แม้กระทั่งจุดที่ไม่มีใครมองเห็น ราวกับว่าเขากำลังทำความสะอาดห้องน้ำเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือนบ้านตัวเอง ถ้ามีคนมาเข้าห้องน้ำ เขาก็จะออกมายืนรอข้างนอก เพื่อให้คนที่มาเข้าห้องน้ำสามารถทำธุระได้อย่างสบายใจ

ตกเที่ยงก็จะซื้อขนมปังชิ้นเล็ก ๆ หรือนมกล่องไปนั่งกินในสวนสาธารณะ และบันทึกภาพแสงเงาของต้นไม้ด้วยกล้องฟิล์ม เสร็จจากงานก็แวะอาบน้ำร้อน กินข้าวเมนูเดิม ๆ ที่ร้านประจำ หลังจากนั้นก็กลับบ้าน อ่านหนังสือ ก่อนจะเข้านอนแล้วหลับไป กิจวัตรประจำวันของเขาดำเนินไปเช่นนี้วันแล้ววันเล่าในวันที่ออกไปทำงาน

ส่วนวันหยุด เขาก็จะไปนั่งบาร์เล็ก ๆ กินอาหาร แวะร้านหนังสือ รับรูปฟิล์มที่เอาไปล้าง แน่นอนว่ากิจวัตรเหล่านี้ก็ยังเหมือนเดิมในทุก ๆ วันหยุดของสัปดาห์

ทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่ของชีวิต

ชาวญี่ปุ่นมีปรัชญาชีวิตที่เรียกว่า “อิจิโกะ อิจิเอะ” หมายถึง การพบกันเพียงครั้งเดียว ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ทุกเหตุการณ์ที่เราพบเจอในชีวิตอาจผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่วนกลับมาอีก เราจึงควรใช้ทุกช่วงเวลาอย่างมีความหมาย สัมผัสทุกรายละเอียด ชื่นชมกับทุกความสวยงามที่อยู่ตรงหน้า เพราะถ้าหากเราพลาดไป สิ่งนั้นก็จะไม่ย้อนกลับมาแล้ว

แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้ราบเรียบสวยงามทุกวัน บางครั้งชีวิตก็จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันผ่านเข้ามาทักทายบ้าง อย่างบางวันคุณลุงฮิรายามะไปทำงานตามปกติ แล้วได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ติดอยู่ในห้องน้ำ ก็เลยพาออกมาตามหาแม่ แต่เมื่อแม่เด็กเห็นเขากลับมองด้วยสายตาที่หวาดระแวงและไม่เป็นมิตร เพียงเพราะอาชีพล้างห้องน้ำที่เขาทำ หรืออยู่ ๆ เพื่อนร่วมงานของคุณลุงก็โทรมาลาออกกะทันหัน ทั้ง ๆ ที่คุณลุงเพิ่งให้ความช่วยเหลือไป ทำให้วันนั้นคุณลุงต้องทำงานเพิ่มขึ้นและเลิกช้ากว่าปกติ แต่คุณลุงก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่เก็บเรื่องพวกนั้นมาคิดวนซ้ำไปซ้ำมาให้เสียความรู้สึก

เพราะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันจึงมองเห็นสิ่งที่คนอื่นอาจไม่เคยได้หยุดมอง

ท่ามกลางความพลุกพล่านและหนาแน่นของผู้คนที่เร่งรีบใช้ชีวิตในเมืองหลวง คุณลุงฮิรายามะกลับใช้ชีวิตช้า ๆ และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเสมอ ทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ต้นไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะที่ไม่มีใครสนใจ คุณลุงก็เก็บไปปลูก กระดาษเขียนตารางเกม XO ที่ซ่อนไว้ในซอกเล็ก ๆ ตรงมุมห้องน้ำที่จะโยนทิ้งไปก็ได้ แต่คุณลุงก็เลือกที่จะเติมตัว X ลงไป ทำให้กระดาษแผ่นนั้นมีความหมายบางอย่างขึ้นมา ถึงแม้ว่าพอจบเกมแล้ว คุณลุงอาจจะไม่ได้ชัยชนะหรือรางวัลอะไรมากไปกว่าคำขอบคุณ แต่นั่นก็พอแล้วที่จะทำให้คุณลุงยิ้มได้ พอแล้วที่จะเป็นอีกวันธรรมดาที่สวยงามสำหรับคุณลุง

ชีวิตคนเราเปรียบเหมือนการเดินทางอันยาวไกล หลายครั้งเราพยายามไปให้ถึงจุดหมายที่เราตั้งไว้ โดยที่ไม่ได้หยุดตั้งถามกับตัวเองด้วยซ้ำ ว่าเราต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ตำแหน่ง ความร่ำรวย หรือปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่เป็นมาตรวัดความสำเร็จตามบรรทัดฐานของสังคม จนทำให้เราเป็นทุกข์ไปกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หรือไม่ก็ติดอยู่กับภาพความผิดพลาดในอดีต จนชีวิตไปต่อไม่ได้ มองไม่เห็นความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน และไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในวันนี้

เราไม่รู้หรอกว่าคุณลุงฮิรายามะมีความสุขมากแค่ไหน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความพอใจในชีวิตอันแสนเรียบง่ายในทุกวัน ถึงแม้บางครั้งอาจมีช่วงเวลาที่ยุ่งยาก หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดผ่านมาทักทายบ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เพราะเดี๋ยวมันจะผ่านไปอยู่ดี ถึงอย่างไรคุณลุงก็พอใจแล้วกับชีวิตแบบนี้ ชีวิตธรรมดา ๆ ที่คุณลุงเลือกมาด้วยตัวเอง แค่ได้แวะกินข้าวร้านประจำ ได้อาบน้ำให้ชื่นใจ ปั่นจักรยานออกไปซักผ้า รับรูปฟิล์มที่ล้างไว้ หาหนังสือสักเล่มอ่านในวันหยุด แค่นั้นก็เป็นวันที่สมบูรณ์สำหรับคุณลุงฮิรายามะแล้ว

หนังเรื่องนี้ไม่มีตอนจบอันยิ่งใหญ่ น่าประทับใจ หรือซาบซึ้งอะไรนัก มีเพียงแต่ภาพผู้ชายคนหนึ่งที่ยังขับรถออกไปทำงานเหมือนทุกวัน เหมือนตั้งใจจะบอกกับเราว่าจริง ๆ ชีวิตคนเราก็มีเท่านี้ ตื่น ไปทำงาน กินข้าว อาบน้ำ กลับบ้านแล้วเข้านอน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ยุ่งยากไปกว่านั้น บางครั้งจังหวะชีวิตเราอาจจะเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด หรือมีโลกบางใบของคนอื่นเข้ามาซ้อนทับบ้าง แต่สุดท้ายทุกอย่างจะผ่านพ้นไป เราจะกลับเข้าสู่ลูปชีวิตปกติ เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง แสงอาทิตย์ที่ส่องมาในทุกเช้าจะเป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มต้นใหม่ นั่นก็มากพอแล้วที่จะเป็นเหตุผลในการใช้ชีวิต และทำให้ทุกวันธรรมดายังมีความหมายต่อไป

ขอให้ทุกคนมี “วันนี้” ที่ดีในทุกวัน
ขอบคุณภาพจาก Sahamongkolfilm International

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ