อามีเหน๊าะ ด่าหมิ ยายเฒ่าแห่งทะเลจะนะ #SAVEจะนะ

“ยายไม่รู้ว่ากลิ่นของเงินมันหอมขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ กลิ่นอาหารทะเล อร่อยและอิ่มท้อง” เน๊าะ – อามีเหน๊าะ ด่าหมิ วัย 70 ปี  

“ต่อให้ยายจะเป็นอย่างไรหลังจากการออกมาทวงสัญญาครั้งนี้ยายก็ภูมิใจ ชีวิตของยายแหงนหน้ามองฟ้าเท้าเหยียบผืนทรายออกทะเลหาปลามาตลอดชีวิต การมากรุงเทพฯ รอบนี้ คงเป็นเหมือนคลื่นพายุใหญ่ ที่ยายและคนจะนะต้องผ่านไปให้ได้ คนอายุ 70 แบบยายไม่จำเป็นต้องถ่อมาถึงนี้ก็ได้ แค่อยู่บ้านแล้วยอมให้เขาเปลี่ยนทะเลจะนะที่สวย หาดทรายที่ใสให้กลายเป็นโรงงาน แต่ใจมันทำไม่ได้ ลูกหลานจะอยู่อย่างไร ไม่ได้เห็นท้องทะเลและหาดทรายที่สวยงาม มองไปคงมีแต่โรงงาน ปลาเองก็คงต้องไปซื้อกินทั้งที่บ้านอยู่ใกล้ทะเลกว่าใคร วิถีชีวิตคงไม่เหมือนเดิม

“เมื่อคืนหลังจากเดินทางมา 1,000 กว่ากิโลฯ จากบ้านสวนกง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ยายต้องนอนในคุก โดนทั้งดึงและลาก ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำกันแบบนี้ เรามากัน 4 คันรถตู้ 30 กว่าชีวิต อายุน้อยสุด 50 ปี มากสุดก็ตัวยาย 70 ปี ยายกลัวมาก ทำได้เพียงยกมือดูอาต่อองค์อัลเลาะห์ขอความสงบจงบังเกิด (เสียงไซเรนจากรถพยาบาลวิ่งผ่าน หน้าสํานักงานองค์การสหประชาชาติ) ขนาดเสียงแบบนี้ยายยังกลัวเลย ไม่คิดเลยว่าจะทำ ยายไม่มีความรู้อะไรหรอกนะ แต่ยายสงสัยว่ามันผิดมากนักหรือไงที่ยายออกมาปกป้องทรัพยากรของประเทศ เขาทำเหมือนเราเป็นผู้ร้าย ยายยังเจ็บอยู่เลย

“ตอนเช้าดูข่าวมีนักการเมืองบอกว่า อาชีพประมงไม่มีใครทำแล้ว จะบอกว่าก่อนหน้านี้ช่วงโควิดระบาดหยุดงานทั่วประเทศ เราไม่อดตาย บ้านเราแทบไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเราอยู่กับทะเล มีปูปลาให้กินตลอด ไม่ใช่แค่เพียงพอต่อคนในหมู่บ้านแต่เรายังแบ่งปันอาหารส่งไปให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดในจังหวัดต่างๆ หรือแม้แต่ปลาสดๆ ฝีมือคนจับปลาวิถีชีวิตจากบ้านเรา ส่งอาหารทะเลสดไปในเมือง เราคือต้นทางอาหารทะเล ลองคิดดูถ้านิคมเข้ามาตั้งแล้วมีสารพิษทิ้ง (รั่วไหล) สู่ทะเล เหมือนที่เกิดขึ้นในนิคมอื่นๆ คนปลายทางจะเหลืออะไร ในปลาคงมีแต่สารเคมีและเราคงเลิกอาชีพจับปลาซึ่งเป็นวิถีชีวิตดั่งเดิมตั้งแต่รุ่นตายาย

“การพัฒนาให้ทันสมัยน่ะดี ใครๆ ก็อยากได้ แต่พัฒนาแล้วใครได้กันแน่ อันนี้ต้องลองไปคิดดู บอกว่าจะจ้างคนในพื้นที่แสนคน แต่ประชากรในพื้นที่มีเป็นล้าน คนที่เหลือสูญเสียอาชีพจะทำอย่างไร ถ้าทำให้ถูกต้องมีการประเมินสิ่งแวดล้อม รับฟังเสียงพวกเรา แต่นี่เหมือนทำเป็นแค่พิธีกรรมเล่นละคร ไม่ใช่ว่าคนในพื้นที่เขาไม่รู้

“ก่อนมานี่ หมอที่จะนะ ให้ยารักษาโรคกับยายและคนอื่นๆ มาเต็มกระเป๋าเพราะเขาห่วงว่าพวกเราอายุเยอะกันทั้งนั้น   มียากันยุงพร้อม แต่เริ่มเจ็บปวดแขนขาจากเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาไล่เรา แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อตัดสินใจมาแล้วจะขออยู่ตรงนี้เพื่อรักษาจะนะ ถ้าคิดว่าสู้เพื่อตัวเองเรากลับไปแล้ว อายุก็เยอะจะอยู่ได้เท่าไหร่ แต่ถ้าสู้ ขอสู้หลังชนฝา ให้ลูกหลานรุ่นหลังรู้ว่าครั้งหนึ่งพวกป้าและยายต้องออกมาอยู่กินบนถนน เพื่อเก็บรักษาธรรมชาติไว้ให้พวกเขา

“ทะเลคือธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่มากนะ คุณจะยอมให้เขาพรากสิ่งล้ำค่าที่สุดไปได้ยังไง ยายไม่รู้ว่ากลิ่นของเงินมันหอมขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ กลิ่นทะเลที่มีพระอาทิตย์ขึ้น เด็กๆ วิ่งเล่นบนชายหาด กลิ่นอาหารทะเลปลา ปู หอยมันอร่อยและอิ่มท้อง”

Credits

Author

  • อิสรากรณ์ ผู้กฤตยาคามี

    Authorนัก(หัด)เขียน รอนแรมจากเมืองปลายทะเลสู่การศึกษาริมยอดดอย และติดอยู่ในเมืองหลวง หลงใหลในหลากหลายสิ่ง ตั้งแต่รากเหง้ายันมนุษย์อวกาศ ยิ่งมีคาเฟอีนซ่าๆ พร้อมบทสนทนาดีๆ คงเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งในชีวิต

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ