อาณาจักรไม้หอมแห่งเขาใหญ่ เยือนโฮมสเตย์ ‘ป้าติ๋ม’ ผู้หลงรัก ‘โรสแมรี’

“ถ้าต้นไม้เหี่ยวเฉาเราจะหดหู่แต่ถ้าเขาสดชื่นเปล่งปลั่งเราจะรู้สึกเหมือนสาวแรกแย้ม”

ความผูกพันระหว่างป้าติ๋มกับเจ้าโรสแมรี แสนรักจากที่เคยตระเวนท่องเที่ยวในต่างแดนมาทั้งชีวิต วันนี้ป้าติ๋มเลือกปักหลักความสุขของเธอที่ปากช่อง เขาใหญ่ ในบ้านหลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่กลางสวนไม้หอมหายาก เบลีฟ กุหลาบเฮอริเทจ แอริโซนาไซเปรสที่ป้ายืนยันว่ามีเยอะที่สุดในไทย ยังไม่นับลาเวนเดอร์ สนฮอลแลนด์ รัสเซียเสจ ซีตรอน และนางเอกของบ้านคือ โรสแมรี ฝรั่งเศส ที่ป้ามักหักก้านมาเสียบบาร์บีคิวย่าง ไม้หอมเหล่านี้ทำให้ป้าติ๋มกลายเป็นคนติดบ้าน และการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการนำพาผู้คนจากทั่วโลกมุ่งตรงสู่บ้านของเธอ แรงบันดาลใจและเรื่องราวมากมายเริ่มต้นที่นี่ โรสแมรี เฮ้าส์ (Rosemary House)

ธรรมชาติ เปลี่ยนชีวิต

“หอมสดชื่น ชวนผ่อนคลาย และทำอาหารอร่อย”

คือสรรพคุณแบบกระชับของโรสแมรี ที่ป้าติ๋มเกริ่นให้เรารู้จัก ป้าติ๋มคือผู้บุกเบิกอันดับต้นๆ ที่ทำให้โรสแมรี กลายเป็นพันธุ์ไม้หายากของนักจัดสวนชาวไทย ในวัยย่างเข้า 64 ปี ที่ใครได้พูดคุยต้องขำเพลิดเพลินในความสนุกสนานและแสนชิลของเธอ ป้าติ๋มเล่าว่าก่อนหน้านี้ป้าคือสายลุย เดินทางไม่หยุด อยู่นิ่งไม่ได้ ใจร้อนและจอมวีนขั้นสุด แต่ความคิดและชีวิตก็เปลี่ยนไปเมื่อรายล้อมด้วยธรรมชาติ

“ตอนป้าทำบ้านที่ปากช่องบอกสามีเลยว่า ฉันจะซื้อต้นไม้ใหญ่สูง 3-5 เมตรเท่านั้น ไม่เอาต้นเล็ก ไม่รอเด็ดขาด เดี๋ยวฉันตายก่อนทำไง ใจร้อนมากตอนนั้น แต่พอปลูกจริงๆ ความคิดเราค่อยๆ เปลี่ยน ธรรมชาติเปลี่ยนให้ป้าสงบขึ้น เปลี่ยนให้เลิกฟุ้งซ่าน ใจเย็น รักเพื่อนฝูงมากขึ้น ช่วงแรกที่เริ่มปลูกต้นไม้ จำได้ว่าป้าประคองดอกรักเร่ใส่ถุงมา ประคบประหงมเพราะกลัวเขาไม่ออกราก พอวันที่รากงอกเราดีใจมาก จากนั้นก็เฝ้าดูการเติบโต ขึ้นมาเรื่อยๆ ต้องคอยรดน้ำให้ปุ๋ย การรดน้ำ ก็เป็นศาสตร์และศิลป์นะ บางทีดินมันแข็ง เวลารดน้ำต้นไม้ให้เอานิ้วจิ้มลงไปในดิน ถ้าดินแข็งน้ำจะอยู่ที่ผิว ส่วนรากมันอยู่ลึกกว่ามันก็ไม่ได้น้ำ ฉะนั้นรดรอบแรกไปก่อนเดี๋ยวกลับมารดอีกที แล้วเวลาตัดแต่งกิ่งไม้ มันทำให้เรามีสมาธิ คือสมาธิไม่ต้องไปวัด แต่ถ้าคุณไปวัดแล้วคุณมีความสุขคุณก็ไป แต่ถ้าคุณอยู่กับต้นไม้ พรวนดิน ให้ปุ๋ย สำหรับป้าสิ่งนี้ทำให้จิตใจเราสงบ

“เราซื้อโรสแมรี จากเพื่อนบ้านที่ออสเตรเลีย สามีบอกว่ามันทำกับข้าวได้ หอมด้วย ตอนนั้นซื้อมาปักชำเป็นหมื่นเลยค่ะ พอปักชำสำเร็จปรากฏว่าเต็มบ้าน ขยายเรื่อยๆ จนเป็นสวนแบบนี้ เคยมีช่วงที่ป้าปลูกกุหลาบ เราสังเกตว่าเวลาเขาโรยมันจะเหลือแต่เกสรแห้งๆ เต็มสวนทำให้เราหดหู่ แต่พอเป็นโรสแมรี ตัดยอดปุ๊บมันไม่ทิ้งซากเลยยังเขียวสดใสแป๊บเดียวก็แตกยอดขึ้นมาใหม่ ได้อารมณ์ดี เราเลยเล่นไม้จำพวกนี้มาตลอด แต่พวกไม้ดอกก็ปลูกแซมบ้างเพราะช่วงหน้าหนาวเขาจะบานสะพรั่งต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาพัก

“แต่กว่าจะรู้ใจต้นไม้ไม่ง่าย ลองผิดลองถูกมาเยอะ ปีแรกๆ ตายไปก็เยอะ เราจะคอยสังเกตเก็บข้อมูลจนรู้พัฒนาการของเขา ช่วงไหนฝนตกถี่ๆ ต้องมียาป้องกันเชื้อโรคเชื้อรา ไม่ให้เขาป่วย เวลามีคนมาถามวิธีดูแล ลองทำแล้วได้ผลดี เราก็รู้สึกดี เพราะเกิดจากประสบการณ์จริงๆ ไม่ต้องท่องจำแต่ให้สังเกต เราไม่สามารถบอกได้ว่ามันชอบน้ำหรือไม่ชอบน้ำ ให้สังเกตว่าคุณอยู่พื้นที่ไหน เช่น ทางใต้เบรกน้ำนิดนึงเพราะเขาไม่ชอบน้ำ ทางอีสานคุณต้องเพิ่มน้ำหน่อยเพราะมันแล้ง มันไม่มีอะไรเป็นคำตอบเดียวหรอก ต้องสังเกตเอา”

ใส่ใจก่อน จึงจะเข้าใจ

“โรสแมรี เป็นลูกของป้า” ป้าติ๋มตอบเสียงดังฟังชัด ถ้าวันไหนลูกกินไม่อิ่ม เฉา ป้าจะหงอย แต่ถ้าวันไหนลูกสดใสเปล่งปลั่งพลังป้าก็มา ป้าติ๋มไม่เคยปล่อยให้โรสแมรี ทรุดโทรมเช่นเดียวกับจิตใจของป้าเองที่ต้องหมั่นดูแลอยู่เสมอ

“ถ้าต้นไม้เหี่ยวก็ต้องหาทางบำรุง เหมือนตัวเราถ้าวันไหนเฉาก็ต้องฟื้นฟูตัวเอง ลองสังเกตสิวันไหนคุณ ให้อาหารต้นไม้ไม่ครบ น้ำไม่ถึง ต้นไม้จะไม่งอกงาม ก็เหมือนเรา ถ้ากินอาหารไม่ดี ไม่ครบ ก็ผอมแกร็น เราถึงต้องกินอาหารเสริมบำรุง ต้นไม้ป้าก็ต้องให้ปุ๋ย ให้ดิน ให้น้ำ ไม่ใช่เลี้ยงเขาตามมีตามเกิด ดินที่อยู่มานานสารอาหารมันก็หมด ต้นไม้เหมือนคน เขามีความรู้สึก มีป่วย มีอยากกิน ลองอยู่กับเขาจริงๆ แล้วเราจะรู้ แต่ถ้าเลี้ยงแบบไม่สนใจคุณจะไม่มีวันเข้าใจต้นไม้”

เมื่อความฝันและความสุข ไม่เคยหยุดเดินทาง

หลังจากที่สร้างบ้านในฝันที่เขาใหญ่ ป้าติ๋มผู้คลั่งไคล้การเดินทางมีชีวิตใหม่ที่โรสแมรี เฮ้าส์ (Rosemary House) ต้อนรับสาวกโรสแมรีทั่วโลก จากคนไม่รู้จักกลายเป็นมิตรสหาย ได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกัน

“ทีแรกป้าปลูกโรสแมรี หลักๆ เพราะมันหอม จนมีหมอมาพักแล้วบอกว่า คุณป้ารู้มั้ยว่าโรสแมรีมีสารแอนตี้ออกซิเดน 170,000 ส่วนขิง ข่า ตะไคร้ของไทย 8,000 เขาเปิดผลวิจัยให้ดู เราก็ว้าวกับสรรพคุณ จากนั้นก็เริ่มศึกษาจริงจัง แล้วป้าเป็นคนนิ่งไม่ได้ ถ้าทำแล้วต้องเอาให้สุด” จากปลูกโรสแมรี ต่อด้วยคุ้กกิ้ง ก่อนกลายเป็นโฮมสเตย์ แถมยังผลิดอกออกผลเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพจากโรสแมรี

“ไม่ได้โฆษณานะแต่คนซื้อเยอะมาก (หัวเราะ) สรรพคุณของโรสแมรีอย่างที่ หนึ่งคือผ่อนคลาย สองลดการอักเสบ มีอยู่วันหนึ่งป้าโดนมีดบาด เราก็เอาสารสกัดโรสแมรี พ่นๆ ใส่ พอตกเย็นไม่มีแผลอักเสบเลย ไม่บวม ไม่เจ็บ มันลดการอักเสบ ช่วยเรื่องสิวด้วยนะ ไม่ทำให้ลิ่มเลือดแข็ง ฆ่าเชื้อไวรัสแบคทีเรีย”

“ป้าชอบสะสมพันธุ์ไม้ เสื้อผ้าสวยๆ ไม่ได้ตังค์ป้าหรอก แต่ต้นไม้สวยๆ ป้าสู้ตาย เป็นหมื่นก็สู้เอาสิ ป้าจะสะสมต้นไม้ที่ป้ารัก อย่างเบลีฟบ้านเราไม่มีนะ ต้น ใหญ่ๆ แบบนี้ สนอริสโซน่าไซเปรส พวกนี้เป็นสมุนไพร มีน้องคนหนึ่งมาจากออสเตรเลีย เขาทำงานที่ ชาแนล เขาเล่าให้เราฟังว่าแรงบันดาลใจในการผลิตน้ำหอม ต้องเดินทางไปดูนั่นดูนี่แล้วผลิตน้ำหอมออกมาก ส่วนป้ามีแรงบันดาลใจรอบตัวมากมาย ตื่นเช้ามารดน้ำกลิ่นเอิร์ธ กลิ่นดินพุ่งขึ้นมาแล้ว พอเดินไปเด็ดโรสแมรี กลิ่นก็พุ่งเข้ามาในจมูก ลาเวนเดอร์พุ่งขึ้นมา สนไซเปรสอีก ป้าก็โอเคแทงกิ้ว   ได้ไอเดียผลิต Body Mist ขึ้นมา เราจ้างเขาผลิตใช้ Essential Oil นำเข้าแล้วมาผสมกลิ่นในสวนเราเอง พอผสมออกมา มัน สดชื่นมาก”

พลังบวก ยกกำลังสอง

จากความสัมพันธ์ของคนกับต้นไม้ กลายเป็นสายใยระหว่างคนกับคน สารพันกิจกรรมในสวนหอมแห่งนี้ ทั้งอาหาร ที่พัก ผลิตภัณฑ์ สันทนาการต่างๆ ล้วนเกิดจากความสุขของแขกผู้มาเยือน ส่วนตัวป้าเองก็พร้อมลุยเช่นกัน

“รู้มั้ยช่วงแรกป้าถูกต่อว่า มาชมสวนแล้วไม่มีอะไรให้กินเลยหรอ เราเลยเริ่มทำสโคนกินคู่น้ำชาสมุนไพรในสวน พอทำอาหารแล้วผลตอบรับดีมาก หลังๆ ทำเยอะเหมือนคนบ้า ทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บไหล่แต่ก็ทำ รู้มั้ยว่าเพราะอะไร? เพราะเสียงคนกินค่ะ พอยกมาเสิร์ฟปุ๊บเสียงมาเลย อู้ว! ว้าว! โอโห! อร่อย พลังมันมาจ้า ส่งพลังบวกมาจนป้าลืมเหนื่อย พวกเธอรู้มั้ยมันทำให้คนแก่วัยนี้บ้าพลัง อยากทำไม่จบไม่สิ้น

“เคยมีฝรั่งมาพักแล้วป้าเสิร์ฟสเต็ก ฝรั่งบอกว่าไม่เคยกินซอสแบบนี้เลย อร่อยมาก เราก็อุ้ย! อเมซิ่ง เราทำได้ แม้แต่ฝรั่งยังทึ่ง เราเป็นคนชอบกิน ยิ่งอาหารฝรั่งไม่ต้องปรุงแต่งเยอะใช้แค่น้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย มันถูกจริต เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่อยู่กับธรรมชาติ แล้วรู้มั้ยโรสแมรี มีข้อเด่นอีกอย่างคือ ช่วยเปิดต่อมรับรส เหมือนผงชูรสนั่นแหละ ทีนี้กินอะไรก็อร่อย โรสแมรีมีรสอูมามิแบบนั้น ยิ่งดื่มเหล้าดื่มวิสกี้ ฉีดสเปรย์โรสแมรีใส่เข้าไปหน่อย สเต็ก นุ่มสุดๆ ก่อนเสิร์ฟอาหารป้าก็สเปรย์ฟึ่บ! ทำให้จานนั้นอร่อยขึ้น อีกส่วนคือป้าใช้วัตถุดิบดี เรากินอะไรอร่อยก็เสิร์ฟแบบนั้น ซื้อแพงไม่ว่าแต่ขอให้ลูกค้ากินดี

“จากเมื่อก่อนเรามีลูกค้ามา 2-3 โต๊ะ แต่ตอนนี้ 10 บ้าง 30 บ้าง ถึงเหนื่อยแต่สนุก พลังบวกมันมา การที่เราได้รับพลังบวกบ่อยๆ แม้เราจะสูงวัยแต่ก็ไม่เคยซึมเศร้า ไม่เหงา รู้สึกร่างกายแข็งแรง เดินสบายไม่ปวดเมื่อย เผลอๆ ลืมไปเลยว่าอายุเท่าไหร่ มันคือกำไรจากสิ่งที่ทำ

“ลูกค้าทั้งไทยทั้งต่างชาติบอกว่ามาบ้านป้าเหมือนมาเยี่ยมบ้านญาติผู้ใหญ่ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อนะ ทั้งฝรั่งทั้งแขกชอบเรียกเรา มัม มัม เราก็ขำมันน่ารักดี เห็นมั้ยถ้าเราสดใสพลังข้างในจะฉายออกมา คนอยู่ใกล้ๆ ก็มีความสุข ตอนแรกเรานึกว่าคนชอบโรสแมรีจะมีแต่สูงวัย ปรากฏมีทุกระดับประทับใจจริงๆ เด็กน้อยตัวจิ๋วๆ วิ่งตะโกนอยู่ในสวน มีเด็กฝรั่งมานอนกลิ้งในสวนไม่ยอมไปไหน ป้าชอบนะ อยากเห็นเด็กๆ รักต้นไม้รักธรรมชาติ อยากปลูกฝังให้เขาเป็นอย่างนี้ เด็กหรือสูงวัยก็รักธรรมชาติได้”

อย่าคาดหวังความสุขจากใคร เมื่อความสุขสร้างได้ด้วยตัวเอง

คำถามหนึ่งที่ป้าติ๋มมักโดนถามเสมอคือ อยู่คนเดียวเหงามั้ย? ทำไมไม่อยู่กับลูก? ความคาดหวังของพ่อแม่ชาวไทยส่วนใหญ่เมื่อเลี้ยงลูกจนโต ต่างคาดหวังให้ลูกเลี้ยงดูเราในยามชรา ซึ่งตรงกันข้ามกับพ่อแม่จากฝั่งตะวันตก แม้ป้าติ๋มจะเป็นหญิงไทยแต่กลับกันเธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากลูกหลาน เพราะสิ่งสำคัญกว่าคือการได้อยู่กับสิ่งที่รัก

“อย่ามาถามว่าเหงามั้ยนะ เดี๋ยวตีตายเลย คนเราต้องรู้สิว่าทำยังไงถึงจะไม่เหงา ทำยังไงไม่ให้ชีวิตมันไร้ค่า” ป้าติ๋มยืนยัน เพราะในวันข้างหน้าทุกคนล้วนต้องอยู่คนเดียว “ชีวิตมันยากเพราะคนชอบสร้างเงื่อนไขให้ตัวเอง คุณก็ลองทำโน่นนี่ไปสิเพลิดเพลินกับสิ่งๆ นั้น ต้องอยู่กับความจริงให้ได้ ต้องหาอะไรทำ อย่ามานั่งรอว่าวันไหนฉันจะตาย เราไม่ต้องรอ จะวันนี้หรือพรุ่งนี้มันก็คือความสุขของเรา จะตายวันไหนช่างมัน ทำในสิ่งที่คุณชอบค่ะ จะถักโครเช ต์ ท่องเที่ยว พอทำแล้วคุณจะหลงใหลกับมัน ลืมกระทั่งความเจ็บป่วย ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง สำคัญคือต้องหาความสุขของตัวเองให้เจอ มีคนถามป้าว่าตอนนี้ยังไปต่างประเทศไหวหรอ เอ้า! ไปเที่ยวฉันก็ไปได้สิ ฉันเหนื่อยฉันก็นั่งกิน ดูพวกเธอเดิน หายเหนื่อยฉันก็เดินต่อ มันไม่มีอะไรยาก อย่าสร้างเงื่อนไขค่ะ
จงทำในสิ่งที่มีความสุข

“แล้วไม่ต้องไปตามลูกให้มาเยี่ยมฉัน มาดูแลฉัน มาโน่นนี่นั่น ไม่ต้องงง (ลากเสียงยาว) ลูกก็มีความสุขของเขา มีชีวิตของเขา แม่คือคนที่คอยดูความสุข-ความทุกข์ของลูกอยู่ห่างๆ เขาทำงาน 5 วัน 7 วัน หยุดมาก็อยากพักผ่อนบ้าง ถ้าอยากแวะมาหาเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เขา สมัยนี้มีไลน์มีโทรศัพท์ก็คุยกันได้ คือถ้ายังไหวอยู่
ถ้าไม่ได้ป่วยติดเตียง ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากเขา เราต้องใช้ชีวิตของเราเองได้ อย่างมีความสุขด้วย”

ถึงต่างวัยใช่จะมีปัญหา แค่รู้จักฟังและเคารพกัน

“เวลามีเด็กรุ่นใหม่แวะมาหาเราแล้วบอกว่าได้พลังบวกกลับบ้าน ป้าฟังแล้วขนลุก นี่เราทำให้คนวัยนี้รู้สึกแบบนี้ได้หรือ เด็กเพิ่งจบมหาวิทยาลัยบางคนชอบมาคุยกับเราเรื่องโรสแม่รี บางทีก็ยาว ตี 1 ตี 2 ดื่มไวน์ ดริ้งค์ด้วยกัน ป้าว่านี่คือพลังที่มันเสริมกันระหว่างเรากับผู้มาเยือน มันไม่ใช่เราให้เขาฝ่ายเดียว เขาก็ให้เรากลับด้วย” หลังคุยกันถูกคอป้าติ๋มตัดสินใจซุ่มทำโปรเจ็คกับเด็กรุ่นลูก บนผืนดิน 4 ไร่ เพื่อสนองนี๊ดท้าทายตัวเอง

“เราก็คุยกับเด็กที่แวะมาพัก เขาบอกวาดรูปเป็น เราเลยปิ๊งไอเดียเดี๋ยวมาฟีเจอริ่งกัน ชวนมาทำงาน คุยกันตรงๆ ว่าจะบริหารงานแบบไหน เราทำงานร่วมกันได้แม้วัยต่างกัน ขอแค่คุณฟังฉัน ฉันฟังคุณ ทุกอย่างเราจะคุยกันห้ามทะเลาะกัน ไม่ให้ใครเสียเปรียบ ป้าวางระบบการทำงานแล้วถามเขาว่าแฮปปี้มั้ย เด็กก็น่ารักนะ เขาบอกนี่ก็บ้านป้า ป้าลงทุนเยอะกว่าจะมาแบ่งส่วนเท่ากันได้ยังไง ป้าต้องได้เยอะกว่าสิ เราบอกโน ป้าคิดตั้งแต่วันที่เริ่มทำงาน เราเท่ากัน ไม่ต้องมาคิดว่าป้าลงทุนอะไรไปเท่าไหร่ อย่าไปคิดเยอะ ถ้าคิดเยอะทุกอย่างเครียด จงทำใจให้สบายอย่าไปคิดว่าฉันมาร้อยฉันต้องได้กลับไปร้อย อย่าเป็นคนที่คิดอย่างนั้น ให้เอาความสุขเป็นที่ตั้ง ต่างคนต่างส่งเสริมกัน เราก็ทำส่วนที่เราทำได้ Get Along ไปด้วยกัน ทำงานแบบนี้มันมีความสุขมากนะคุณ” จากนั้นป้าติ๋มก็แย้มโปรเจ็คใหม่ให้เราฟังว่าจะจัดสวนล้อไปกับแกลลอรี ทุกอย่างทำจากจินตนาการ โซนนี้สีม่วงทั้งแถบ โซนนี้สดใส เวลาเราเดินเข้าไปในสวนจะคอยมอง จัดสวนในบ้านให้เหมือนภาพวาด ป้าภูมิใจมากเวลาแขกมาแล้วบ่นว่า บ้านป้าเลือกรูปลงโซเชียลยากเพราะถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม นี่ไงล่ะ พลังมาเต็ม !”

‘เกษียณ’ ให้สนุก อย่าหยุดอยู่แค่พักผ่อน

ก่อนหน้านี้ เกษียณ หมายถึง หยุดพักผ่อน ต่างจากสมัยนี้ที่เกษียณกลายเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต

“ป้าว่าคนไทยรุ่นใหม่ๆ ที่ป้ารู้จักน่ารักนะ รู้จักวางแผนก่อนเกษียณว่าฉันจะทำอะไรเพื่อไม่ให้เหงา ไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ บางคนนึกไม่ออกชอบมาถามป้าว่าถ้าเขาเกษียณแล้วจะทำอะไร เอ้า ! ถ้าชอบอยู่บ้านก็ปลูกผักมาทำอะไรกินสิ แต่งบ้านให้สวย เพราะพอบ้านสวยเราจะไม่อยากไปไหน เช้ามาจะนั่งจิบกาแฟ มองต้นไม้ ได้กลิ่น โคตรมีความสุข ไม่ต้องออกไปกินข้าวนอกบ้านตลอดเวลา คุณมีสวนสวยคุณก็จะสร้างสรรค์อะไรได้อีกเยอะ

“แต่ถ้าชอบเดินทางก็ไปเลยอย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง มีน้องอายุ 40 กว่าบอกว่าหนูเห็นชีวิตป้าในโทรทัศน์แล้วอยากมาลองเกษียณกับป้าดูบ้าง นางลองมาอยู่ 2 อาทิตย์ เพราะอยากรู้ว่าตอนที่ชีวิตว่างเปล่าไม่ต้องทำงานจะอยู่ได้มั้ย จะอยู่ยังไง สรุปแล้วนางแฮปปี้เพราะได้อยู่กับธรรมชาติ เดินทำโน่นนี่ทั้งวัน ป้าว่าการวางแผนเกษียณสำคัญนะ ทุกคนก็ต้องมีวัยเกษียณ อย่าปล่อยชีวิตไหลไปเรื่อยๆ ลองใช้ชีวิตสนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจ แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งดีๆ มันจะมาเอง”

Credits

Author

  • มนุษย์ต่างวัย

    Authorพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสังคมสูงวัยในมุมที่สนุก สร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัย

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ