Agewell DESIGN By MOM Studio บริการออกแบบ สร้าง ซ่อม บ้านปลอดภัยวัยเกษียณ ที่คิดเพื่อความสุขของทุกคนในบ้าน

ถ้าคุณจะสร้างบ้านสักหลัง คุณคิดว่าจะอยู่ในบ้านหลังนั้นไปนานแค่ไหน? 10 ปี 20 ปี หรืออยากอยู่ไปตลอดชีวิต แล้วบ้านที่อยู่ได้นาน ๆ จะต้องเป็นแบบไหน และการทำบ้านแต่ละครั้งจะต้องนึกถึงอะไรบ้าง

ด้วยความเข้าใจในปัญหาการใช้ชีวิตที่ส่งผลกระทบทั้งเรื่องสุขภาพกาย ใจ และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เกิดจากการออกแบบบ้าน รวมถึงความตั้งใจให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของการปรับบ้านที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำเพื่อความสวยงาม น่าอยู่ เท่านั้น แต่ต้องมีความปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนในบ้าน และอยู่ไปได้นาน ๆ จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต คุณสุภาวรรน์ เอาทองทิพย์ และคุณแน่วแน่ สทุมถิระ จึงสร้างแบรนด์ ‘Agewell DESIGN By MOM Studio’ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการออกแบบและปรับบ้านให้เกิดความสมดุล ให้ทุกคนได้มีพื้นที่ส่วนตัว โดยที่ยังมีพื้นที่ส่วนรวมให้ใช้ชีวิตร่วมกัน

“เดิมที Mom Studio เป็นสตูดิโอออกแบบภายในทั่วไปที่รับออกแบบบ้าน อาคาร สำนักงานต่าง ๆ แต่พอเรามีลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุ โรงพยาบาลมากขึ้น ก็เลยแยกแบรนด์ออกมา เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ส่วนเหตุผลอีกข้อก็คือ เราอยากทำให้การออกแบบที่เป็น AgeWell หรือ Universal Design มีความสวยงามและตอบโจทย์การใช้ชีวิตไปพร้อม ๆ กัน” คุณสุภาวรรณ์เล่าถึงที่มาของแบรนด์ Agewell DESIGN By MOM Studio

“เรามีบริการให้คำปรึกษาและตรวจเช็กสุขภาพบ้าน ว่าจุดไหนอาจทำให้เกิดการพลัดตกหกล้ม หรือมีจุดไหนที่ต้องปรับ รวมทั้งรับออกแบบบ้านใหม่ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ คนที่อยู่ในช่วงอายุ 35-45 ปี หรือกลุ่มแซนด์วิชเจเนอเรชัน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ผู้สูงอายุหรือคนที่เกษียณแล้ว ซึ่งบางคนต้องดูแลพ่อแม่ด้วย

“จุดเด่นของเราคือการออกแบบบ้านที่ลูกค้าจะใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน โดยคิดเผื่อการใช้ชีวิตในอนาคต เพื่อให้วันข้างหน้าสามารถปรับบ้านได้ง่าย เพียงแค่ทำบางส่วนเพิ่มเติมเข้าไป โดยไม่ต้องปรับใหม่ทั้งหมด”

ปรับบ้านให้ทุกคนอยากอยู่บ้าน

“ก่อนจะปรับบ้าน เราอาจต้องเริ่มจากการปรับใจตัวเองก่อน ยอมรับความจริงว่าเราต้องแก่ ต้องป่วย ร่างกายเราจะต้องเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็ดูว่าเราจะเริ่มปรับเมื่อไร ใช้งบประมาณแค่ไหน และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราจะอยู่ที่นี่เป็นที่สุดท้ายจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าแน่ใจแล้วก็เริ่มทำได้เลย

จริง ๆ เราควรเริ่มปรับบ้านในช่วงอายุ 40 – 60 ปี ไม่ควรรอให้ถึง 65 ปี เพราะช่วงนั้นสุขภาพกาย-ใจจะเริ่มแย่ลง และอารมณ์ก็จะเริ่มแปรปรวนแล้ว

“การปรับบ้านกับความสัมพันธ์มีความเชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจึงต้องคุยกับทุกคนในบ้านให้เข้าใจก่อน เช่น ลูกอยากทิ้งเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนให้บ้านดูทันสมัย แต่พ่อแม่เขาผูกพันกับสิ่งเหล่านี้ กว่าเขาจะหามันมาได้ กว่าเขาจะสร้างบ้านหลังหนึ่งได้ เราก็เลยต้องคุยให้เข้าใจว่า จริง ๆ แล้วพ่อแม่อาจจะแค่ต้องการคุณค่าทางใจ เหมือนกับว่าเขายังได้มีชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แล้วลูกสามารถยอมลงให้ได้แค่ไหน และสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องนึกถึงก็คือเรื่องของความปลอดภัย ในส่วนของสิ่งที่ต้องมีเพื่อทำให้บ้านปลอดภัยก็คือ ราวจับห้องน้ำ ที่นั่งอาบน้ำ การปรับตำแหน่งการติดสายฉีดชำระ ที่ควรติดไว้ข้าง ๆ ทางด้านขวา มากกว่าทางด้านหลัง เพื่อให้หยิบใช้ได้ง่าย เพราะผู้สูงอายุมักจะมีอาการไหล่ติด เอื้อมมือไปหยิบจากด้านหลังได้ยาก

“การเลือกรูปแบบประตู ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะได้รับคำแนะนำให้ใช้ประตูบานเลื่อน ทั้งที่จริง ๆ แล้วการที่ผู้สูงอายุเปิดประตูบานเลื่อนนั้นจะต้องใช้แรงมากกว่าประตูบานผลัก และผู้สูงอายุก็ไม่คุ้นชินกับประตูบานเลื่อนเท่ากับประตูบานผลัก แต่เพราะประตูบานเลื่อนจะช่วยในเรื่องของการเปิด-ปิดที่ง่ายสำหรับผู้ดูแล หรือการเข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลาหากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่านั่นคือประตูที่สามารถเปิดได้ 2 ด้าน คือ เปิดจากข้างนอกเข้ามาข้างใน และเปิดจากข้างในออกไปข้างนอก ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกและความปลอดภัยมากกว่า

“นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ คือ เรื่องของไฟอัตโนมัติบริเวณทางเข้าบ้านและทางเดินจุดต่าง ๆ  รวมทั้งการสร้าง Contrast ภายในบ้าน เช่น ถ้าพื้นสีอ่อน ควรเลือกโซฟาสีเข้ม เพื่อให้มองเห็นได้ชัด ป้องกันการสะดุดล้ม

“การทำงานของแบรนด์ Agewell DESIGN By MOM Studio ได้มีส่วนช่วยในการทำให้ผู้สูงอายุดูแลตัวเองได้ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น เราเคยได้รับฟีดแบ็กว่าการออกแบบของเราเกิดจากการฟัง เราฟังเสียงของคนที่อยู่ในบ้านว่าเขาต้องการอะไร เราเคยออกแบบห้องในคอนโดให้ลูกค้าท่านหนึ่งที่คุณแม่มีภาวะสมองเสื่อม ซึ่งในตอนแรกคุณแม่จะไม่ยอมย้ายมาอยู่ที่คอนโดใหม่ของลูก เพราะเคยชินกับการใช้ชีวิตที่บ้านเก่ามาตั้งแต่สมัยสาว ๆ แต่พอเราออกแบบห้องให้มีความใกล้เคียงกับความคุ้นชินเดิมของท่าน คุณแม่ก็เลยเปลี่ยนใจและอยากไปอยู่ที่นั่น ยิ่งไปกว่านั้นคือพี่เลี้ยงของท่านบอกว่า ท่านสามารถเดินไปเข้าห้องน้ำเองได้ โดยที่ไม่ต้องเรียกให้เขาพาไป

“เราอยากให้ผู้คนตระหนักเรื่องความสำคัญของการปรับบ้านมากขึ้น และการปรับบ้านที่ดีนั้นต้องเริ่มจากความเข้าใจทั้งความต้องการของตัวเองและทุกคนที่อยู่ในบ้าน แน่นอนว่าในการทำบ้านสักหลัง เราคงไม่สามารถฟังความคิดเห็นของทุกคนในบ้านได้ เราต้องเคลียร์ให้ชัดว่าใครเป็นคนตัดสินใจบริเวณไหน ห้องไหน และเราจะต้องไม่ลืมว่าเราไม่ได้ปรับบ้านเพื่อความสวยงาม หรือความปลอดภัยเท่านั้น แต่ต้องทำให้ทุกคนอยากใช้ชีวิตในบ้านไปนาน ๆ ด้วย”

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: MOMstudio 

#PR #มนุษย์ต่างวัย #Manoottangwai #AgewellDESIGNByMOMStudio

Credits

Author

  • มนุษย์ต่างวัย

    Authorพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสังคมสูงวัยในมุมที่สนุก สร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัย

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ