จากเหงือกอักเสบ เจ็บไปถึงสมอง เพราะการป่วยโรคปริทันต์อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้เกือบ 2 เท่า

ถ้าวันนี้คุณแปรงฟันตอนเช้าแล้วพบว่าเหงือกของคุณมีเลือดออก สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกคือไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้คุณอาจไม่ได้เจ็บแค่เหงือก ไม่ได้เสี่ยงแค่สูญเสียฟัน แต่เรื่องมันอาจลุกลามไปไกลถึงสมองก็เป็นได้

โรคปริทันต์หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อของโรคเหงือกอักเสบ คือ การติดเชื้อเรื้อรังของเหงือกที่เกิดจากการสะสมของคราบพลัค ซึ่งเป็นฟิล์มเหนียว ๆ ของแบคทีเรียบนฟัน หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจลุกลามจากเหงือกอักเสบเล็กน้อยไปสู่โรคปริทันต์ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งนำไปสู่เหงือกร่น ฟันหลุด และกระดูกที่ยึดติดอยู่กับฟันเสียหาย

องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่ามีผู้ป่วยโรคปริทันต์รุนแรงมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคนี้ก็คือสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดีและการสูบบุหรี่

มีงานศึกษาบ่งชี้ว่าโรคปริทันต์อาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง จากงานวิจัยใหม่ ๆ หลายฉบับ ชี้ให้เห็นว่า คนที่เป็นโรคปริทันต์มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า และถ้าเป็นทั้งเหงือกอักเสบและฟันผุก็อาจเพิ่มความเสี่ยงได้มากถึง 86%

สาเหตุสำคัญว่าทำไมปัญหาสุขภาพช่องปากถึงเชื่อมโยงกับสมอง นั่นเป็นเพราะ

การอักเสบและหลอดเลือด

โรคเหงือกก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในช่องปาก ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้ การอักเสบนี้สามารถนำไปสู่การเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงตีบและแข็งตัวเนื่องจากการสะสมของคราบพลัค ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งสามารถจำกัดการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งเป็นโรคหลอดเลือดสมองชนิดที่พบบ่อยที่สุด

การแพร่กระจายของแบคทีเรีย

แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ผ่านทางเหงือกที่อักเสบหรือมีเลือดออก เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือด ก็จะสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงสมองได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดหรือการตีบตันของหลอดเลือดแดง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้

การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อแบคทีเรียในเหงือกสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้น นำไปสู่ผลกระทบที่เป็นอันตรายต่ออวัยวะอื่น ๆ รวมถึงสมอง การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันนี้สามารถเพิ่มโอกาสของการก่อตัวของลิ่มเลือดหรือความเสียหายของหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง

ใครบ้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ?

คนที่สูบบุหรี่มักจะมีภาวะเหงือกอักเสบรุนแรง ส่วนคนที่เป็นโรคเบาหวานก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายเป็นพิเศษ ยิ่งอายุมากยิ่งมีโอกาสเกิดโรคปริทันต์ได้ง่ายขึ้น และความรุนแรงของโรคก็เพิ่มขึ้นตามอายุเช่นกัน นอกจากนี้การที่เราละเลยสุขอนามัยในช่องปากก็อาจนำไปสู่การเกิดโรคปริทันต์ได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามการเป็นโรคปริทันต์ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องมีโรคหลอดเลือดสมองพ่วงตามมาด้วยเสมอไป เพียงแต่ว่าถ้าเราเริ่มต้นดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่วันนี้ ด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและแปรงให้ถูกวิธี ไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เราจะสามารถลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองไปได้อีกข้ออย่างแน่นอน

อ้างอิง

https://cielodental.com/unexpected-connection-between-gum-disease-and-stroke/

https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6847992/

https://www.dentalhealth.org/news/gum-disease-doubles-stroke-risk-according-to-new-study

https://shorturl.asia/0hdZC   

Credits

Author

ถึงจะต่างวัยแต่ก็
อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ