“การวิ่งมันก็มีระยะของมัน มีตอนเริ่ม เครื่องติด ชนกำแพง ฝ่ากำแพง เข้าเส้นชัย ผมมองเส้นทางการรักษาเหมือนเส้นทางการวิ่ง ตอนเป็นมะเร็งผมก็เลยไม่ช็อก ไม่ตกใจ เพราะเส้นทางการวิ่งมีผมคนเดียว ผมยังไม่กลัว แต่การรักษามีทั้งหมอ พยาบาล แฟน มันยิ่งง่ายกว่าการวิ่ง ผมมองมันแบบนั้น
“เวลาพัง หรือเจอวิกฤตในชีวิต มันต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยว ซึ่งผมใช้ ‘การวิ่ง’ ยึดเหนี่ยว อยากให้ทุกคนหาสิ่งยึดเหนี่ยวของตัวเองให้เจอ”
-‘อู๋’ จิณตวัตน์ พรสุขสวัสดิ์-
ใช้ชีวิตกันมาจนเกือบถึงเดือนสุดท้าย ปลายปี หลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยล้า วันอาทิตย์ที่ผ่านมามนุษย์ต่างวัยจึงชวนเพื่อน ๆ มาชาร์จพลังกาย พลังใจ ด้วยการเดิน-วิ่งสบาย ๆ แบบไม่กำหนดระยะ ไม่กำหนดเวลา ในจังหวะของตัวเอง
โดยมี ‘พี่อู๋’ จากเพจ Aoo Run มาร่วมวิ่ง ร่วมแชร์ประสบการณ์ชีวิต และการดูแลสุขภาพกาย-ใจในวันพัง ๆ ให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ฟัง พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็น และส่งพลังใจดี ๆ ให้แก่กัน พร้อมรับของที่ระลึกสุดพิเศษที่พี่อู๋เตรียมไว้ให้กับทุกคนที่มาเดิน-วิ่งด้วยกันในวันนี้
นอกจากทุกคนจะได้มาออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เรายังมีวงคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพี่อู๋ เพื่อเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้ออกกำลังใจผ่านการฟัง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หลายคนที่กำลังทุกข์ หรือมีปัญหา ก็ได้กำลังใจและมุมมองในการใช้ชีวิตกลับไป ส่วนคนที่ยังไม่มีปัญหา ก็ได้แง่คิดว่า สุขภาพกาย-ใจเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูแลให้ดี อย่าปล่อยให้ลุกลามจนกลายเป็นปัญหา
มนุษย์ต่างวัยดีใจที่ ‘มนุษย์ต่างวิ่ง’ ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนได้ออกมาเดินไกลที่สุดในรอบปี ได้กลับมาใส่ชุดออกกำลังกายอีกครั้ง ได้มารับพลังจากเพื่อนใหม่ ๆ และได้มาใช้เวลากับเพื่อน ๆ และครอบครัว
พบกันใหม่กับกิจกรรมครั้งต่อไปในเดือนหน้า
แล้วมาเดิน มาวิ่ง เติมพลังกาย และมาผลัดกันเล่า ผลัดกันฟัง เพื่อรับพลังใจไปด้วยกัน
“เมื่อก่อนเราเคยหนัก 100 กิโลกรัม เวลาเห็นสะพานลอยก็ร้องไห้ เพราะเรารู้สึกว่าทำไมเราเดินไม่ได้ แค่ 100 เมตร เราก็หอบแล้ว ตอนนั้นไขมันในเลือดสูงด้วย แล้วหมอก็บอกว่าถ้าไม่ลดน้ำหนัก เราจะเป็นสโตรกแน่ ๆ ก็เลยเริ่มดูแลสุขภาพจริงจัง
“ช่วงแรกก็เริ่มด้วยการเดินอย่างเดียว เดินทุกวันอยู่เกือบ 2 ปี เพิ่งจะมาวิ่งได้ปีนี้ ก็เลยลงฮาล์ฟมาราธอน เพื่อเป็นเป้าหมายให้กับตัวเอง ปกติก็จะซ้อมตลอด เพิ่งหยุดไปประมาณ 1 เดือน เพราะมันท้อ ร้องไห้ทุกวัน รู้สึกว่าตัวเองวิ่งได้ไม่ดี
“จริง ๆ เราเป็นคนที่วิ่งคนเดียว ซ้อมคนเดียวมาตลอด ก็เลยอยากมาเจอเพื่อนบ้าง ปกติเวลาไป Run Club เราจะเจอแต่เด็ก ๆ แล้วเราก็วิ่งไม่ทันเขา แต่มาวิ่งวันนี้ ได้เจอคนหลากหลายวัย มีทั้งคนมาเดินมาวิ่ง ได้พูดคุยกัน แชร์ประสบการณ์กัน
“เราเหมือนจะหมดใจกับการวิ่งลงไปนิดหน่อย แต่พอได้มาฟังคนอื่นแชร์วันพัง ๆ ของตัวเอง เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้ทุกข์อยู่คนเดียว คนอื่นเขาก็ทุกข์เหมือนกัน”
“ผมติดตามเพจมนุษย์ต่างวัยอยู่แล้ว เห็นว่ามีการชวนกันมาวิ่งก็สนใจ เพราะปกติผมก็วิ่งอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าถ้าได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ แล้วได้วิ่งในบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ก็น่าจะดี แล้วที่นี่ก็เดินทางสะดวกด้วย
“ผมเพิ่งเริ่มวิ่งตอนอายุ 50 ตอนแรกก็เริ่มจากการเดินก่อน พอเราคุ้นกับมันค่อยเริ่มวิ่ง เริ่มจาก 1 กิโลเมตร ค่อย ๆ เพิ่มเป็น 2 กิโลเมตร ขยับไปเรื่อย ๆ ปกติผมว่ายน้ำทุกเช้า แล้วตอนเย็นก็วิ่งรอบหมู่บ้านทุกวัน วันละ 3-4 กิโลเมตร พยายามทำให้มันเป็นกิจวัตร พอเราอายุขนาดนี้แล้ว เราคิดว่าเราต้องไม่เป็นภาระกับคนอื่น เราจะต้องจากไปแบบไม่ต้องให้คนมาดูแล
“สิ่งที่ได้กลับไปแน่ ๆ ในวันนี้ก็คือได้วิ่ง และผมคิดว่าการที่เราจบกิจกรรมด้วยการแชร์ประสบการณ์ ทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนอื่น เราอาจจะต่างที่มา มีวิธีดูแลตัวเอง วิธีจัดการปัญหาต่างกัน แต่ว่าเรามีจุดร่วมอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ชีวิตของคนเมือง หลายคนทุ่มเทกับการทำงาน หาเงิน แล้วพอถึงจุดหนึ่งก็จะพบว่าชีวิตเริ่มมีปัญหา ผมคิดว่าเราไม่ควรจะปล่อยให้ชีวิตเราไปถึงจุดนั้น ส่วนเรื่องสุขภาพร่างกาย เราก็ต้องสังเกตตัวเองเป็น ถ้าเมื่อไรเกิดความผิดปกติขึ้น เราต้องเอ๊ะกับตัวเองได้ และไม่ปล่อยให้มันยืดเยื้อจนกระทั่งกลายเป็นภาระของคนอื่น”
“ก่อนหน้านี้เราเจ็บเข่าต้องหยุดวิ่งแล้วไปรักษา หลังจากผ่าเข่ามา 3 ปี ก็ยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย งานนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากกลับมาใส่ชุดออกกำลังกายอีกครั้ง เพราะเราเป็นแฟนเพจมนุษย์ต่างวัยอยู่แล้ว ก็เลยอยากมาร่วมกิจกรรมและอยากมาฟัง ซึ่งมาแล้วไม่ผิดหวังเลย แฮปปี้มาก ๆ
“ตอนนี้เราก็เกษียณแล้ว ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น เราก็มองหาคอมมูนิตี้ที่เราจะมาจอยแล้วทำให้เราได้แรงบันดาลใจ และได้ข้อมูลดี ๆ กลับไปดูแลตัวเอง เพราะไม่ว่าเราจะมีเงินเท่าไร ถ้าสุขภาพไม่ดี มันก็คงหมด
“สิ่งที่ชอบที่สุดคือการที่ทุกคนได้มาแชร์กัน ทั้งในส่วนของคุณอู๋และเพื่อน ๆ ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมด้วยกันในวันนี้ พอคนรู้ว่าเราเจ็บเข่า เราก็ได้คำแนะนำดี ๆ จากเพื่อน ๆ หลายคน ที่เราคิดว่าน่าจะเอาไปใช้ต่อ ไม่เสียใจเลยที่ตื่นแต่เช้าเพื่อมาวันนี้”
“ผมทราบข่าวกิจกรรมนี้จากภรรยา เพราะเขาติดตามเพจอยู่แล้ว และเห็นว่าจะมีกิจกรรม ‘มนุษย์ต่างวิ่ง’ เขาก็เลยบอกว่าให้ลองมาวิ่งดูเผื่อจะเจอเพื่อน ๆ คอเดียวกัน
“กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่ดี เพราะได้ทั้งออกกำลังกาย และได้แบ่งปันพูดคุย เวลาที่ใช้ก็ไม่ได้มากเกินไปด้วย ผมไม่ได้รู้จักคุณอู๋มาก่อน แต่การได้มาฟังเขาแชร์ประสบการณ์ก็รู้สึกว่าคนคนหนึ่งที่เขาเจอวิกฤตขึ้นมาในชีวิต แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกตกใจ และใช้สิ่งที่ทำอยู่แล้วอย่าง ‘การวิ่ง’ มาปรับใช้กับวิกฤตที่เขาเจอ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้เรารู้สึกประทับใจ
“ปกติผมออกกำลังกายอยู่แล้ว อาทิตย์ละ 2-3 วัน พอมาวิ่งวันนี้ก็รู้สึกว่าได้ปลุกความรู้สึกดี ๆ จากการออกกำลังกายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ที่พิเศษจริง ๆ ก็คือการได้เจอกลุ่มเพื่อนใหม่ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ทำให้เราได้เติมพลังใจ และรู้สึกว่าอยากออกกำลังกายให้ได้อย่างต่อเนื่อง”
