เพราะเราเชื่อว่า “การเกษียณไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการทำงาน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่”
มนุษย์ต่างวัย ร่วมกับ SCB Academy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด, สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT), สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ AFAST Smart Retiree อาชีพนำร่อง “พี่ที่ปรึกษา (Retiree Consultant)” ร่วมส่งต่อ Wisdom และประสบการณ์จากคนรุ่นใหญ่สู่ภาคธุรกิจ เพื่อหนุนเสริมเศรษฐกิจและขับเคลื่อนสังคม
โครงการ AFAST Smart Retiree เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหญ่ที่ผ่านการอบรม กิจกรรมชีวิต ซีซัน 2 วิชา “อัปสกิลขั้นสุดสู่การเป็นที่ปรึกษามืออาชีพ” ได้ใช้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการสร้างอาชีพ และสร้างรายได้หลังวัยเกษียณ ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ SSME และ SME ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญของประเทศ สามารถเข้าถึงที่ปรึกษาที่มากด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ ที่หลากหลาย โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนการจ้างที่ปรึกษาที่สูงจนเกินไป ซึ่งสามารถรับคำปรึกษาฟรีในเบื้องต้นได้จำนวน 20 ชั่วโมง ผ่าน “ตลาดกลางพี่ที่ปรึกษา (Retiree Consultants’ Marketplace)” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางให้พี่ที่ปรึกษาและผู้ประกอบการมาพบกัน โดยผู้สนใจงานที่ปรึกษาจะเข้าไปลงทะเบียนพร้อมกับฝากโปรไฟล์การทำงานไว้ หากผู้ประกอบการใดสนใจ ก็สามารถติดต่อ พูดคุย และนัดหมายการทำงานร่วมกันได้
ติดตามข้อมูลโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่ https://thaismartretiree.com
หมายเหตุ : ผู้สนใจฝากประวัติกับโครงการ AFAST Smart Retiree จะต้องเป็นผู้ที่เคยผ่านกิจกรรมชีวิต ซีซัน 2 วิชา “อัปสกิลขั้นสุดสู่การเป็นที่ปรึกษามืออาชีพ” มาแล้วเท่านั้น
สำหรับรายละเอียดการรับสมัครกิจกรรมรุ่นถัดไป สามารถติดตามได้ทางเพจมนุษย์ต่างวัย
“สังคมไทยเข้าสู่ยุค Aging Society อย่างแท้จริงแล้ว และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะเป็น Super Aged Society เราจะเห็นผู้สูงอายุทยอยเกษียณจากการทำงานอยู่เรื่อย ๆ แต่ในอีกมุมหนึ่งพวกเขาก็ยังมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง และมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเองมากมาย หลายคนยังมีความพร้อมที่จะส่งต่อประสบการณ์และคุณค่าดี ๆ ที่สะสมไว้ตลอดชีวิตการทำงานให้กับคนอื่น ๆ สังคม และประเทศ
“ในขณะเดียวกัน SMEs ซึ่งเป็นภาคธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยก็ประสบกับปัญหามากมาย ไม่สามารถที่จะเข้าถึงบุคลากรที่มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากนัก
“พอเราเห็น 2 เรื่องนี้ มันก็สามารถนำจับคู่กันได้ ซึ่งเป็นความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย คือ ผู้เกษียณอายุและผู้ประกอบการ SMEs นั่นจึงเป็นที่มาของโครงการ AFAST Smart Retiree ที่สุดท้ายก็จะทำให้ทุกฝ่าย win-win ส่งผลให้สังคมและประเทศของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน
“โครงการนี้มีองค์ประกอบ 3 ข้อสำคัญ คือ 1.การคัดเลือกพี่ ๆ วัยเกษียณที่ใช่เข้ามาในโครงการ เราเชื่อว่าการที่จะประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ที่ปรึกษาได้นั้น เขาต้องมีทั้งมายด์เซ็ตและความพร้อม บางครั้งอาจต้องรอเวลาในการบ่มเพาะหรือปรับจูนความคิดต่าง ๆ ก่อน ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เกษียณแล้วจะทำได้
“2.การเรียนรู้แบบ Action Learning หรือ การเรียนรู้ในเชิงปฏิบัติ นำไปสู่การลงมือทำ หรือสร้างประโยชน์ได้จริง โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
“3.การสร้างมาร์เก็ตเพลส เราอยากเห็นว่าเมื่อการเรียนรู้จบลงแล้วมันนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง มีสภาพแวดล้อมที่ทำให้ไปลงมือทำงานได้จริง และมี SMEs ที่ต้องการผู้เข้าร่วมโครงการไปเป็นที่ปรึกษาจริง ๆ เพื่อให้เกิดการจ้างงานอย่างเป็นรูปธรรม”
“มนุษย์ต่างวัยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเป็นสื่อเชื่อมกับกลุ่มพี่ ๆ ที่ยังสนใจอยากจะใช้วิชาชีพของตัวเองมาทำประโยชน์ เพื่อพาพวกเขาไปสู่แหล่งความรู้ต่าง ๆ และทำให้เขาได้มีโอกาสเปิดโลกที่กว้างออกไปเรื่อย ๆ
“ในวันที่เราอบรมที่ปรึกษา เราจะเห็นคนอายุ 65+ ที่ยังดูแข็งแรงมาก และมีคนจากหลากหลายสาขาอาชีพที่บางครั้งเราก็ไม่คิดว่าจะมี ทั้งที่ปรึกษากฎหมาย, ผู้บริหารด้าน HR , บริษัทเดินเรือ ฯลฯ ทุกคนล้วนอยากได้ความรู้ และโอกาสต่อยอดในการทำอาชีพใหม่ ๆ
“ที่ผ่านมามนุษย์ต่างวัยพยายามจะทำเรื่องนี้มาโดยตลอด และเราก็รู้สึกว่าถ้ามีเพื่อน ๆ ที่มีความถนัดที่แตกต่างจากเรามาช่วยกันมันคงจะเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะหลายคนที่กำลังจะเลิกทำงานประจำมักจะไม่รู้ว่าจะพาชีวิตตัวเองไปอยู่ตรงไหนของสังคม
“นอกจาก โครงการ AFAST Smart Retiree จะช่วยสร้างอาชีพให้เกิดขึ้น เราอยากใช้โอกาสนี้ช่วยทำให้พี่ ๆ กลุ่มนี้ได้มองเห็นคุณค่าของตัวเองมาก ๆ ด้วย ถ้าหากเราสามารถทำโครงการฯ นี้ให้ประสบความสำเร็จได้ คนในแวดวงอื่น ๆ ก็อาจจะมองเห็นโอกาส และนำเอาโมเดลนี้ไปปรับใช้ในแวดวงหรือองค์กรของตัวเองได้”
“ภารกิจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เน้นในเรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล รวมไปถึงการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลให้กับทุกกลุ่มวัย เราทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการใช้ดิจิทัลในเชิงสร้างสรรค์และปลอดภัย
“สำหรับโครงการ AFAST Smart Retiree เราเห็นว่าถ้าพี่ ๆ ผู้มากประสบการณ์สามารถอัปสกิล รีสกิล เอาความรู้หรือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปเสริมกับประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมาทั้งชีวิตได้ จะช่วยให้พวกเขามีศักยภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถที่จะนำประโยชน์เหล่านี้ไปส่งต่อให้กับ SME หรือ SSME ที่ต้องการสิ่งเหล่านี้ต่อไปได้”
“งานหลักของสำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คือการช่วยภาคธุรกิจ SMEs ในด้านของเทคโนโลยี นวัตกรรม และแหล่งทุนต่าง ๆ ซึ่งเรามักจะเจอคำถามอยู่ตลอดว่านอกจากเรื่องเหล่านี้ เราช่วยสนับสนุนในเรื่องที่ปรึกษาให้ได้ด้วยหรือไม่ โครงการ AFAST Smart Retiree จึงเป็นโซลูชันที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ตรงนี้
“สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของ ‘พี่ที่ปรึกษา’ คือ ประสบการณ์ เพราะการทำงานที่ปรึกษาจะต้องมีความรู้และความชำนาญ ซึ่งประสบการณ์จากพี่ ๆ กลุ่มนี้เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ทั่ว ๆ ไป ต้องอาศัยการทำงานเป็นระยะเวลานานจนเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ยิ่งถ้าเราให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือ Digital Literacy ก็จะช่วยเพิ่มความสามารถมากยิ่งขึ้น
“เรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิชาการอยู่แล้ว แต่ผู้ประกอบการต้องการความรู้เฉพาะด้าน เช่น ทำบัญชีอย่างไร ลดต้นทุนแบบไหน ซึ่งการมีที่ปรึกษาจะมาเติมเต็มและช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ไปได้เร็วขึ้น เพราะพี่ ๆ กลุ่มนี้ล้วนเป็นคนที่เดินผ่านมาแล้ว เรียนรู้ทุกอย่างมาแล้ว เห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว โครงการ ฯ นี้จึงเป็นโครงการดี ๆ ที่เราอยากทำให้ประสบความสำเร็จให้ได้”
“ไมโครซอฟท์มีความตั้งใจว่าอยากจะช่วยพัฒนาทักษะ AI ให้คนไทย 1 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ เพราะเราเห็นความสำคัญในการนำ AI เข้ามาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เราทำหลักสูตรเรียนรู้ AI สำหรับเรียนรู้อย่างง่าย ๆ ด้วยตัวเองไว้บนเว็บไซต์ของ AFAST ด้วย
“ในส่วนของโครงการ AFAST Smart Retiree เป็นโครงการที่เราตั้งใจอยากจะทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ ที่ยังคงเป็นกำลังสำคัญของสังคม ได้ใช้ศักยภาพในการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ช่วยสนับสนุน”
“บทบาทหน้าที่ของสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) คือการยกระดับวิชาชีพ HR และพัฒนาทรัพยากรบุคคล โครงการฯ นี้จึงตรงกับวัตถุประสงค์ขององค์กรเราอย่างชัดเจน
“งาน HR จะทำหน้าที่ทำระบบงานบริหารจัดการบุคลากรในองค์กร เป็น Business Partner หรือเป็นผู้ช่วยที่จะช่วยสร้างระบบที่ดีที่ทำให้การบริหารจัดการบุคลากรสามารถทำให้องค์กรเติบโต ทำให้คนเกิดการพัฒนา และสร้างคุณค่าให้กับพนักงานทุกช่วงวัย
“องค์กรที่ดีจะมีการเตรียมพร้อมในมิติต่าง ๆ ให้กับคนที่กำลังจะเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพทางการเงิน หรือสุขภาพทางอาชีพ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ HR จะต้องหันกลับมาดูแลคนก่อนเกษียณให้เขาสามารถเกษียณสุข และมีชีวิตในสังคมต่อไปได้อีก 15-20 ปี
“ปัจจุบันรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปมาก การจ้างประจำอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้ ดังนั้น การบริหารจัดการในองค์กรจะต้องมีความยืดหยุ่นและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษะ ความรู้ รวมถึงวัยด้วย หลายองค์กรจึงมีการต่อสัญญาจ้างคนที่เกษียณแล้วให้เป็นที่ปรึกษา แต่ผู้ประกอบการ SMEs ยังขาดโอกาสตรงนี้อยู่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พันธมิตรของพวกเราจะเข้ามาช่วยกันดึงคนที่มีคุณภาพและมีศักยภาพกับองค์กรใหญ่ ๆ ที่เกษียณแล้วให้มาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทย และทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน”
“ตอนนี้ประเทศไทยมีผู้ประกอบการประมาณ 3.25 ล้านราย เป็น SMEs อยู่ประมาณ 99.5% แต่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมอยู่เพียง 35% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่ากลุ่มคนเหล่านี้ยังต้องการการพัฒนาอยู่ ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ที่ผู้ประกอบการ SMEs พบเจอมาเป็นเวลายาวนาน คือ การเข้าถึงแหล่งทุน การเข้าถึงช่องทางการตลาด และการเข้าถึงองค์ความรู้
“วันนี้ต้องขอบคุณทาง SCB และพันธมิตรทั้ง 7 แห่ง ที่ทำให้เกิดโครงการดี ๆ ขึ้น ด้วยการเปลี่ยนสิ่งที่หลายคนกังวลให้พลิกกลับมาเป็นจุดแข็ง โดยใช้ผู้มากประสบการณ์เข้าไปช่วยพัฒนาเครือข่ายของคนตัวเล็กตัวน้อย ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสที่ทรงพลังอย่างมาก เพราะการรวมพลังในวันนี้ไม่ได้เป็นการช่วยแค่ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยเท่านั้น เพราะ ถ้า SMEs รอด ก็หมายถึง 99.5% ของจำนวนผู้ประกอบการ 3.25 ล้านรายขับเคลื่อนไปได้ดี ซึ่งบ่งบอกว่าเศรษฐกิจฐานรากของประเทศก็ไปได้ดีด้วยเช่นกัน”
“สมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กรมีเครือข่ายทั่วประเทศ มีบุคลากรที่พร้อมจะขับเคลื่อนแนวคิดต่าง ๆ ที่เราใช้ เช่น Happy Money, Happy Society, Happy Brain ฯลฯ
“ผมคิดว่าคนวัย 55+ หรือ 60+ เป็นคนกลุ่มที่สุดยอดของสุดยอด เพราะเขาเก็บประสบการณ์จากวิชาชีพมานานกว่า 30 ปี กว่าจะเอามาใช้
“ทุกคนที่อยู่ในระบบจะรู้ว่าตัวเองจะ expired เมื่อไร แต่ของบางอย่างแม้จะหมดอายุไปแล้วแต่มันก็ยังกินได้ เช่นเดียวกับคนวัยเกษียณที่ยังคงมีศักยภาพในการทำสิ่งต่าง ๆ ต่อไปได้ แม้จะถึงเวลาที่ต้องออกจากระบบองค์กรหรือการทำงานประจำแล้ว
“ผมว่าเราต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ในฐานะองค์กรภาคเอกชน เราคงจะมาช่วยสนับสนุนโดยเอาจุดเด่นของแต่ละที่มาทำงานร่วมกันได้”
